ผลต่างระหว่างรุ่นของ "Worcester Academy"

จาก TSWiki
(สิ่งอำนวยความสะดวก)
(สิ่งอำนวยความสะดวก)
แถว 113: แถว 113:
  
 
;Student center
 
;Student center
เป็นที่ชุมนุมของเด็ก ๆ เวลามีคาบว่าง พี่ไม่ค่อยได้ไปนั่งเพราะเสียงดังวุ่นวาย วันเสาร์อาทิตย์ หลายคนชอบมาดูทีวี ดูหนัง แล้วก็เล่นเกม (อาจารย์พี่เคยเอา wii มาเล่น เลยขอแจมด้วย) ที่นี่น้องสามารถยืมหนังไปดูที่หอได้ด้วยกับ Ms.Gagne ครับ (คนนี้ก็ดีน้อง น่ารักด้วย ;) ) แต่ว่าหนังมีไม่เยอะเท่าไหร่นะ เปิดปิดเป็นเวลาเหมือนกัน พอมาเดี๋ยวก็รู้เองว่าเปิดปิดเมื่อไหร่
+
เป็นที่ชุมนุมของเด็ก ๆ เวลามีคาบว่าง พี่ไม่ค่อยได้ไปนั่งเพราะเสียงดังวุ่นวาย วันเสาร์อาทิตย์ หลายคนชอบมาดูทีวี ดูหนัง แล้วก็เล่นเกม (อาจารย์พี่เคยเอา wii มาเล่น เลยขอแจมด้วย) ที่นี่น้องสามารถยืมหนังไปดูที่หอได้ด้วยกับ Ms.Gagne ครับ (คนนี้ก็ดีน้อง น่ารักด้วย ; ) ) แต่ว่าหนังมีไม่เยอะเท่าไหร่นะ เปิดปิดเป็นเวลาเหมือนกัน พอมาเดี๋ยวก็รู้เองว่าเปิดปิดเมื่อไหร่
  
 
;ร้านขายของ
 
;ร้านขายของ

รุ่นปรับปรุงเมื่อ 10:38, 27 เมษายน 2550

วูสเตอร์ อคาเดมี (Worcester Academy) เป็นโรงเรียนแห่งหนึ่งในรัฐแมสซาชูเซตส์ ที่มีอายุเกือบสองร้อยปี แม้ว่าจะเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก และไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก แต่ก็เป็นโรงเรียนที่น้องต้องมาเรียนอยู่ดี ดังนั้น ทำใจครับ 555 (กะว่าจะเขียนเครียด ๆ นะเนี่ย) สำหรับรูปโรงเรียน คาดว่าจะนำมาลงในไม่ช้านี้ ใครมีอะไรสงสัย หาทางติดต่อพี่เอาให้ได้แล้วกัน อีเมล์ครับ ที ดับเบิ้ลยู เค _7@hotmail.com ครับ

ข้อมูลทั่วไป

Worcester Academy ตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1834 ณ เมือง Worcester, Massachusetts จัดว่าเป็นโรงเรียนที่มีขนาดเล็กมาก (เดินรอบโรงเรียนได้ภายในสิบนาที) โรงเรียนเป็นแบบสหศึกษา มีสามเทอม (เรียกว่า trimester system) มีนักเรียนทั้งแบบไปกลับ และแบบกินนอน

คำขวัญโรงเรียนคือ Achieve the Honorable มีสัตว์ประจำโรงเรียนคือ hilltoppers กับ rams (พี่อยู่จนจะจบอยู่แล้ว ยังไม่รู้เลยว่าไอ้สองตัวนี้มันคือตัวอะไรกันแน่) สีประจำโรงเรียนคือ สีเลือด (maroon) กับสีดำ (black ครับ)

ที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ในเขตเมือง (urban) แต่ว่าเป็นเขตเมืองที่ไม่มีอะไรเลย อย่างไรก็ตาม โรงเรียนของเราสามารถไปถึงเมืองบอสตันได้สะดวกสบาย ทั้งรถเมล์ และรถไฟ เดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ

นักเรียนทุนชาติไทย ณ Worcester Academy

ปี พ.ศ. 2546 พี่แบงก์ ทุน พสวท. ปัจจุบันศึกษาด้าน Computer Science ณ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University)

ปี พ.ศ. 2547 พี่สนุกเกอร์ ทุน พสวท. ปัจจุบันศึกษาด้าน Physics, Mathematics และ พี่โอ้ต ทุน พสวท. ปัจจุบันศึกษาด้าน Physics ณ สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ (MIT, Massachsetts Institute of Technology)

ปี พ.ศ. 2548 พี่ปาล์ม ทุนกองทัพอากาศ ปัจจุบันศึกษาด้าน Landscape Architecture ณ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแมสซาชูเชตส์วิทยาเขตแอมเฮิร์ซ (UMass-Amherst, University of Massachusetts, Amherst)

ปี พ.ศ. 2549 พี่ตี๋ ทุน พสวท. ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่ วูสเตอร์ อคาเดมี คาดว่า จะไปศึกษาด้าน Physics+อื่น ๆ ณ มหาวิทยาลัยแห่งชิคาโก (University of Chicago)

วิชาการ

สำหรับด้านวิชาการ พี่คิดว่า การเรียนที่นี่ค่อนข้างหนักในช่วงแรก แต่พอปรับตัวจะไม่หนัก จนรู้สึกว่าโรงเรียนเรามันเรียนไม่หนักเลย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ความตัั้งใจ (หรือบ้าพลัง) ของน้องด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับ prep school อื่น ๆ แล้ว โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนที่เรียนสบายครับ นอกจากนี้ พี่เข้าใจว่า โรงเรียนเราค่อนข้างแข็งแรงทางด้านวิทยาศาสตร์มากกว่าด้านสายศิลป์ เพราะที่ สนร. ส่งมา เป็นเด็กเรียนวิทย์ฯ ทั้งนั้น

สำหรับการลงวิชาเรียน โรงเรียนบังคับให้เราลงเรียนอย่างน้อย 5 หน่วยกิต ทั้งนี้ต้องมี หนึ่งหน่วยกิตสำหรับภาษาอังกฤษ หนึ่งหน่วยกิตสำหรับประวัติศาสตร์ (เท่าที่พี่จำได้นะ) ทั้งนี้ แนะนำให้ลงวิชาให้กระจายไปหลาย ๆ อย่าง เพื่อทำให้ transcript ดูดี เป็นคนรู้รอบ และทำให้เราเรียนไม่เครียดด้วย

ต่อไปนี้เป็นการแนะนำวิชาเรียน จากที่พี่ได้ดูรายการของปีหน้า (ปี 50) นะครับ

English - มี AP English Literature, AP English Language นอกจากนั้นก็มีวิชาเลือกน่าสนใจมากมาย เท่าที่พี่ดูก็มีประมาณ ยี่สิบอย่างได้ เว่อร์มาก ๆ

คำแนะนำ: พี่โง่อังกฤษอ่ะครับ เลยลง English II ซึ่งเป็นของเด็กเรียนครับ พี่คิดว่าถ้าน้องไหว เลื่อนไปเรียนตัวที่สูงขึ้นดีกว่า

Mathematics - มี AP Calculus AB, AP Calculus BC และมียากกว่านั้นคือ Multivariable Calculus ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ยากนัก เรียนขำ ๆ ครับ

คำแนะนำ: ควรลงอย่างน้อย AP Calculus BC ครับ และถ้าคิดว่าอยากเรียน ลง Multi. Cal ลงไปเลย ไม่ยากเกินไปครับ ไม่โหด

Foreign Lauguage - ไม่มีวิชา AP สำหรับวิชานี้ ที่นี่มีฝรั่งเศส สเปน และละติน อ้อ ปีนี้มีภาษาจีนเปิดสอนเพิ่มด้วยครับ น่าสนใจดีสำหรับน้อง ๆ ที่อยากเรียนภาษาเพิ่มเติม

คำแนะนำ: อยากเรียนน้องก็ลง 555

Science - มี AP Chemistry II, AP Biology II และ AP Physics II นอกจากนี้ยังมีวิชาเลือกที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น What were you thinking? (Neuroscience), Making of Genius (Physics history), Marine Science แล้วก็ Intro. to Geology

คำแนะนำ: พี่เรียนวิชาเลือกสองตัวแรก ไม่ผิดหวังครับ ได้เรียนรู้อะไรน่าสนใจมากมายกว่าคอร์สธรรมดาครับ แต่ถ้าน้องคิดว่า อยากเรียนอะไรที่เอาไปสอบ AP ได้ ก็ลองดู อ้อ ยังมีวิชา biochemistry เป็น independent study อ่ะครับ เรียนอาทิตย์ละครั้ง เก็บหน่วยกิตสบาย ๆ แต่ก็เบียดเบียนเวลาพักผ่อนน้องนิดนึง ลองดูแล้วกันครับ

History and Social Sciences - มี AP European History, AP American Government, AP US History มีวิชาเลือกหลากหลายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Science and Religion, Comtemporary Isssues, World War II, Economics และอื่น ๆ มากมาย

คำแนะนำ: พี่ ซึ่งโง่อังกฤษ ไม่ได้ลงพวกนี้ ได้ลง US History ธรรมดาไป อาจารย์ที่สอนพี่ดีมาก ๆ เขาเท่อ่ะ สอนดีแล้วก็ยุติธรรมดี แถมแอบกวน ถ้าโชคดีขอให้น้องได้เรียนกับเขาครับ

Technology - มี AP Computer Science ให้เรียนเป็นเขียนโปรแกรมจาวา ไม่ยากอย่างที่คิด ยิ่งถ้าน้องเคยจับ ๆ คลำ ๆ เรื่องโปรแกรมจะไปฉิวเลย นอกจากนี้วิชาเลือกก็มากมาย ทั้ง Photoshop, CAD , Film Making, Web design และ Multimedia design ครับ

คำแนะนำ: ถ้าน้องสนใจ ก็ลงได้ แต่ว่าที่นี่สอนคอมไม่แข็งมากนะครับ ถ้าจะสอบ AP ควรตั้งใจหาอ่านเพิ่มเติมด้วย

Theater - อันนี้ไม่มี AP แต่ดูท่าจะหรูมาก มีทั้ง Acting และงานเกี่ยวกับละคร เช่น Costume Design, Design for the Perf. Arts, Sheakspeare in Hollywood และ Thinking like Leonardo เอามาลงเฉย ๆ อันนี้พี่ยังไม่เคยลองครับ

คำแนะนำ: อยากรู้ ลองเลยครับ

Music - อันนี้ไม่มี AP แต่มี Chorus, Instrumental Ensemble และ Music Theory ครับ

คำแนะนำ: พี่ว่าเท่ดี ใครชอบดนตรีก็ลง

Studio Art - มี AP Studio Art 2-D Design วิชานอกจากนี้ก็มี Ceramics, Painting, Sculpture อันนี้พี่พลาดเผลอลงอันง่ายไป ถ้าน้องสนใจ พี่คิดว่าสามารถเลื่อนขึ้นมาเลือกวิชาที่น่าสนใจและยากขึ้นได้ครับ

คำแนะนำ: ลองคุยกับอาจารย์ดู ถ้าขอเปลี่ยนเป็นเรียนศิลปะชั้นสูงเลยได้หรือเปล่า ถ้าได้ก็ดีครับ จะได้ทำงานใหญ่ ๆ เป็นชิ้นเป็นอัน (พี่ไปเรียนกับ freshmen อ่ะ แก่กว่ากันสี่ปี -_-")

กีฬา และกิจกรรมนอกหลักสูตร

กีฬา

กีฬาจะแบ่งเป็น สามฤดู เหมือนกับภาคเรียนครับ โดยกีฬาที่น่าสนใจก็มีหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่โรงเรียนเราไม่มีกีฬาอะไรประหลาด ๆ เหมือนโรงเรียนชาวบ้านเขาอ่ะครับ (อย่างพวกยิงธนู ฟันดาบ พายเรือ ไม่มีเลยอ่ะครับ)

นี่เป็นรายชื่อกีฬาที่มีให้ลงทีมครับ

Upper School girls: basketball, cross country (วิ่่งทรหด), field hockey (ฮอกกิ้ที่ไม่ได้เล่นบนน้ำแข็ง), lacrosse (เป็นกีฬาอเมริกันอย่างหนึ่งอ่ะครับ มาแล้วเดี๋ยวก็รู้ว่าคืออะไร), skiing, soccer, softball, swimming, water polo, tennis and track (วิ่งเหมือนกัน).

Upper School boys: baseball, basketball, cross country, football, hockey, skiing, soccer, swimming, tennis, track, wrestling (มวยปล้ำแบบมีชั้นเชิงอ่ะครับ ศิลปะการต่อสู้) and lacrosse.

Upper School co-ed: golf and water polo (junior varsity only).

พี่ลง JV Swimming ไปครับ (คือ JV หมายถึง Junior varsity คือ ทีมรุ่นเยาว์ ประมาณนั้นอ่ะครับ เป็นทีมมือสอง รองจาก Varsity) สนุกดี เหนื่อยหน่อย แต่ได้เพื่อนเยอะเหมือนกัน แล้วก็โค้ชใจดี ถ้าไม่มีอะไรอยากลงเป็นพิเศษก็ลงได้ครับ

ชุมนุมและกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์

ชุมนุม จริง ๆ แล้วเขาบังคับให้เราเข้าชุมนุม (รวมกีฬาด้วย) อย่างน้อย 2 หน่วย และกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ (community services) อีกอย่างน้อย 20 ชั่วโมงครับ

ชุมนุม (club) มีให้เลือกหลากหลายอยู่พอสมควร มีทั้งที่น่าสนใจและไม่น่าสนใจเท่าไหร่ในสายตาพี่ มีทั้งแบบเข้าไปชิว หรือว่าเข้าไปเหมือนเรียนอีกคาบ อันนี้ก็แล้วแต่ครับ แต่ที่ที่นักเรียนทุนชาติไทยชื่นชอบ เขากันเป็นประจำ ได้แก่

  • Math team เป็นชุมนุมที่เตรียมความพร้อมให้เราไปแข่งเลข แล้วเราก็ได้ไปแข่งเลขจริง ๆ นั่นแหละ โรงเรียนเรานับว่า เป็นโรงเรียนที่มีโอกาสได้ไปแข่งเลขบ่อยมาก (ประมาณสองอาทิตย์ต่อหนึ่งครั้ง) แม้ว่าการแข่งขันจะเป็นนัดเล็ก ๆ แต่ว่า บางรายการมีเงินเป็นเหยื่อล่อ จึงน่าสนใจที่น้อง ๆ จะพยายามแข่งดู นอกจากนี้การไปแข่งเลข ยังเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้ไปเปิดหูเปิดตา หรือแม้กระทั่งได้พบเพื่อน ๆ ที่ห่างหายกันไปนานอีกด้วย ทีมเลขของโรงเรียนเรา ไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ แต่อาจารย์ที่คุมทีม คือ Mr.Yanco เป็นอาจารย์ที่มีไฟ และพร้อมสู้เพื่อทีมเสมอ (ถ้าเขาแข่งเองได้ คงแข่งไปแล้ว 55) เป็นที่ปรึกษาให้น้องเรื่องการแข่งขันได้สบาย

ปล. ถ้าน้องสนใจไป Math team อย่าลืมเรื่อง HMMT ให้รีบออกตัวก่อนว่า จะขอไปแข่งกับทีมชาติไทย ไม่อย่างนั้นจะตกหลุมพรางได้ (รายละเอียดติดต่อพี่หลังไมค์แล้วกัน)

  • International club เป็นชุมนุมรวมนักเรียนอินเตอร์ส่วนใหญ่ น้องจะมีโอกาสหาเพือ่นได้จากชุมนุมนี้ ชุมนุมนี้จะว่าไปก็ไม่มีอะไรเท่าไหร่ บางทีก็มานั่งคุยกันว่าจะไปกินข้าวที่ไหนดี อะไรประมาณนั้น แต่ว่ากิจกรรมใหญ่ของ International club ก็คือ International Assembly ที่แต่ละชาติจะมีโอกาสได้แสดงเอกลักษณ์ของตน สนุกดีครับ แต่พี่เสียดายที่ปีพี่ไม่ได้แสดงอะไร (บังคับน้องๆ ที่ไป ต้องแสดงให้ได้ ถึงไม่ได้ร่วม club ก็แสดงได้) อาจารย์คุมชุมนุม คือ Ms.Bernstein ซึ่งเป็น International advisor ซึ่งใจดี แต่ถึงแม้เขาจะยุ่งแค่ไหน เขาก็ช่วยเหลือน้องตลอด ขึ้นรถลงเรือ ฝากเงินทำเอกสาร ฯลฯ เขาช่วยทุกอย่าง สนใจก็ลองเลือกดูครับ

อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ชุมนุมของพี่ปิดบังความคิดน้องนะครับ ยังมีชุมนุมหลายอย่างที่น่าสนใจ แต่ความขี้เกียจครอบงำพี่ก่อน ไว้มาแล้วก็เลือกดูครับ อย่าง physics/robotics club, manga club อะไรพวกนี้ น่าสนใจดี

ส่วนกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่จะมาเรื่อย ๆ ครับ รอดูว่ามีอะไรน่าทำ น่าสน มีประโยชน์ ก็เลือกทำเอา พยายามทำให้เสร็จเร็ว ๆ ครับ จะได้เอาไปเขียนในใบสมัครมหาวิทยาลัยได้ด้วย และไม่ต้องมีห่วงกังวลว่าไม่ครบเงื่อนไขการจบครับ ของพี่ที่ทำก็มี วิ่งรณรงค์รักษามะเร็ง กับถักนิตติ้งให้ครอบครัวในย่านคนจน (อันนี้น่ารักไปหน่อย แต่ก็สบาย ไม่ต้องคิดมาก ฟังเพลงไป พักผ่อนด้วย)

Senior project

เงื่อนไขการจบหลักสูตรของที่นี่อีกอย่างก็คือ Senior project ครับ Senior project คือการทำโครงการอะไรขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง ที่ตรงความสนใจและเกิดประโยชน์ใดทางใดทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการทดลองวิทยาศาสตร์ การฝึกงาน การเขียนโปรแกรม ทัศนศึกษา หรือแม้กระทั่งฝึกว่ายน้ำ!! ข้อบังคับคือว่า นักเรียนจะต้องทำ Senior project เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 80 ชั่วโมง และต้องบรรยายผลการทำงาน (powerpoint บันทึกประจำวัน) เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง

ข้อดี: Senior project เปิดโอกาสให้น้องได้ลองทำในสิ่งที่อยากทำ แถมโรงเรียนยังปิดเทอมก่อน ให้น้องได้ทำ Senior project ถึงสองอาทิตย์ กล่าวคือ เพื่อน ๆ น้องที่โรงเรียนอื่น ก็นั่งเรียนกันต่อไป โรงเรียนเราก็นั่งชิว ทำ project แถมแวบออกไปเที่ยว (อ้างว่าเก็บข้อมูล ปรึกษาโครงงาน) ได้อีกด้วย

ข้อเสีย: พี่ว่าข้อเสียอย่างเดียวของ Senior project คือว่า ถ้าน้องไม่มีไอเดีย ไม่รู้จะทำอะไร อันนั้นจะเศร้ามาก อย่างไรก็ตามน้องสามารถหาไอเดียดี ๆ ได้ในเว็บไซต์ Senior project ของโรงเรียน หรือคุยกับอาจารย์ก็ได้ (เข้าใจว่าปีหน้าเปลี่ยนคน เพราะอาจารย์ที่ดูแลเรื่องนี้อยู่เดิมลาไปเรียนต่อครับ)

ตัวอย่าง Senior project ของพี่ ๆ:

  • พี่ตี๋ TS49- JAVA Programming for psychological test (MACI test)

สิ่งอำนวยความสะดวก

หอพัก

โรงเรียนเรามีหอพักหลายหอครับ แต่วว่าสำหรับน้อง ๆ ผู้่ชาย จะต้องมาอยู่หอที่เรียกว่า Dexter Hall ครับ เป็นหอที่ใหญ่ที่สุด อยู่ตรงกลาง campus เข้าถึงทุกที่ได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะโรงอาหาร ส่วนน้องผู้หญิง จะต้องไปอยู่หอที่เล็กกว่า (น่าจะเป็น Stoddard ไม่ก็ Heydon ครับ พี่ไม่เคยเข้าไปส่วนภายในหอพัก ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้)

โรงอาหาร

โรงอาหาร เปิดบริการเป็นเวลาครับ รายละเอียดไว้มาอยู่ก็รู้เอง อาหารรสชาติเฉลี่ยแล้วถือว่าพอทนอยู่ไปได้หนึ่งปีครับ พนักงานโรงอาหาร (คนเสิร์ฟ) ใจดีครับ ในโรงอาหารมีซอสพริก และซีอิ๊วขาว (Soy Sauce) คิดว่าพอประทังชีวิตน้อง ๆ ไปได้

ห้องสมุด

ห้องสมุดโรงเรียนเราอยู่ในตึกเรียนของ Middle school student ครับ มีสองชั้น ชั้นหนึ่งกับชั้นใต้ดิน หนังสือดี ๆ จำพวกฟิสิกส์ก็มีให้อ่านเล่นครับ อย่าง Feynman Lecture on Physics, About Time, Fabric of Cosmos ฯลฯ มีห้องสำหรับ Silent study ด้วย คาดว่าห้องสมุดโรงเรียนเราจะมีหนังสือใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ ครับ ลองคุยกับบรรณารักษ์ดูก็ได้ ใจดีทุกคนครับ

ห้องพยาบาล

ห้องพยาบาล อยู่ใน Stoddard Hall ก็มีอะไรเจ็บป่วย เข้าไปขอหยูกยา นอนพักได้ แต่ถ้าจะขอหยุดเรียน ต้องไปแต่เช้าก่อนเริ่มคาบเรียน ไม่เช่นนั้นนจะถือว่าขาดเรียน ต้องโดนลงโทษด้วย พยาบาลก็ใจดีครับ (ใจดีกันทุกคนเลย คนไหนโหดพี่ก็ไม่พูดถึงอ่ะ)

Student center

เป็นที่ชุมนุมของเด็ก ๆ เวลามีคาบว่าง พี่ไม่ค่อยได้ไปนั่งเพราะเสียงดังวุ่นวาย วันเสาร์อาทิตย์ หลายคนชอบมาดูทีวี ดูหนัง แล้วก็เล่นเกม (อาจารย์พี่เคยเอา wii มาเล่น เลยขอแจมด้วย) ที่นี่น้องสามารถยืมหนังไปดูที่หอได้ด้วยกับ Ms.Gagne ครับ (คนนี้ก็ดีน้อง น่ารักด้วย ; ) ) แต่ว่าหนังมีไม่เยอะเท่าไหร่นะ เปิดปิดเป็นเวลาเหมือนกัน พอมาเดี๋ยวก็รู้เองว่าเปิดปิดเมื่อไหร่

ร้านขายของ

ร้านขายของ ก็เปิดปิดเป็นเวลาเหมือนกัน ขายหนังสือที่น้องต้องใช้เรียน ขายอุปกรณ์เครื่องเขียน (แนะนำว่าให้ซื้อมาให้พอก่อนมาอเมริกาได้เลย พวกนี้) แล้วก็ของที่ระลึกของโรงเรียนครับ

ห้องจดหมายและการเงิน

ห้องจดหมาย กับห้องการเงิน แยกจากกัน เวลาน้องรอจดหมาย จะมีช่องจดหมายส่วนตัวอยู่ใน Student center ชั้นล่าง แต่ว่าถ้าเป็นพัสดุใหญ่ ๆ ต้องมาเอาที่ห้องจดหมายครับ ส่วนห้องการเงิน เป็นที่ที่น้องอาจต้องมาจัดการเรื่องเงินเวลาซื้อของเป็นพิเศษ หรือว่าแลกเหรียญ quarter ไปซักผ้าครับ สำหรับกรณีที่น้องต้องส่งจดหมายด่วน หรือฝากเงิน แนะนำให้ติดต่อ Ms. Bernstein ที่เป็น international advisor ของเรานะครับ ติดต่อเข้าถึงง่าย เป็นกันเองกว่าด้วย

ซักผ้า

เครื่องซักผ้า มีอยู่ทั่วไปตามใต้หอทุกหอ สนนราคาซัก อบ อย่างละ 1.25 เหรียญ แนะนำว่าให้ซักเครืื่องเอง อย่าเข้า laundry plan เพราะแพงพระเจ้าช่วย อันนี้ไม่มีเวลาเปิดปิดครับ อยากใช้ก็หาทางไปให้ซักให้ได้แล้วกัน

โรงยิม

โรงยิม มีสนามบาสเกตบอล มีสระว่ายน้ำ มีห้องเล่นฟิตเนส มีลู่วิ่งกระจิดริด ถ้าอยากเล่นเทนนิส (มีแต่ outdoor นะครับ) หรือวิ่งลู่กว้างๆ หรือเล่นอเมริกันฟุตบอล ต้องไปสนามของโรงเรียนซึ่งห่างออกไปประมาณเดินห้านาที จริง ๆ มีสนามกีฬาอีกที่หนึ่ง แต่อันนั้นต้องนั่งรถไปครับ

อินเตอร์เนต และคอมพิวเตอร์

โรงเรียนเราใช้ระบบ wireless จึงไม่ต้องกลัวเรื่องสายแลน แต่จะเอามาเผื่อไว้ก็ไม่เสียหาย คอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนนี้ใช้ mac กัน แต่ว่าไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ อยากใช้คอมอะไรก็ใช้ได้ ไม่มีการตรวจโปรแกรมเถื่อน หากไม่ไปข้องแวะกับ Information Service ครับ อ้อ โรงเรียนจะตัดสัญญาณอินเตอร์เนตหลังเที่ยงคืน และช่วง Study Hall (อาทิตย์-พฤหัส สองถึงสี่ทุ่ม) พวก internet browser แต่ว่ายังเล่น msn ได้ งงเหมือนกัน นอกจากนี้ โรงเรียนเรายังบลอก youtube, myspace และเว็บที่สมควรบลอก (แม้ว่าน้องอาจจะอยากเข้า) ด้วยครับ

โทรศัพท์

ถือว่าเป็นอภิสิทธิ์ของโรงเรียนนี้เลยก็ว่าได้ น้องต้องนำเครื่องและสายโทรศัพท์มาต่อ แต่ว่าโทรภายในประเทศฟรีครับ หากโทรกลับไทยก็กดรหัสบัตรเอา

เล็ก ๆ น้้อย ๆ

อื่น ๆ

ลิ้งก์ที่เกี่ยวข้อง