St. Stephen's Episcopal School

ถ้าเข้ากลุ่มแล้ว สามารถดูรูปคร่าวๆได้ที่นี่ (พร้อมคำอธิบายสั้นๆในคอมเม้นของแต่ละรูป) https://www.facebook.com/media/set/?set=oa.172879333215611&type=1

บทนำ (in process)

St.Stephen's Episcopal School เป็นโรงเรียนเดียวจากบรรดาโรงเรียนทั้งหมดใน list ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ เพราะฉะนั้นแล้วจึงมีวัฒณธรรม และรวมไปถึงวันหยุดราชการที่แตกต่างจากโรงเรียนทางฝั่ง East Coast (ที่ตั้งโรงเรียนส่วนมาก) พอสมควร และที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบหนาว เพราะแทบไม่มีหิมะเลยตอนเหมันต์ฤดู

ปล.ขึ้นขื่อว่าได้รับการรับเลือกจาก สนร แล้วแสดงว่าโรงเรียนนี้เจ๋งจริงขอบอก

ข้อมูลพื้นฐาน และสถานที่ตั้ง

โรงเรียนSt.Stephen Episcopal School ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี 1950 ตั้งอยู่ใน รัฐ Texas เมือง Austin หรือ 6500 St Stephens Dr, Austin, TX 78746 สีประจำคือ สี ม่วง-แดง มาสคอตคือ ตัวสปาร์ตัน

สถานที่ในโรงเรียน

• ห้องสมุด(ฺBecker Library)

นอกจากอ่านหนังสือหรือยืมหนังสือแล้ว สามารถเป็นที่รวมตัว Advisory หรือที่ปริ้นท์งานได้อีกด้วย ป.ล. ส่วนมากจะเซฟจากใส่อีเมล หรือแฟลชไดร์ฟไปปริ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์ที่ห้องสมุดเอา ป.ล. 2 Advisory คือการพบปะกับอาจารย์ที่ปรึกษา โดยอาจารย์แต่ละคนจะนัดพบไม่เหมือนกัน บางคนที่ห้องสมุดเป็นต้น

• International office

เป็นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่และอาจารย์ที่ช่วยดูแลนักเรียนจากต่างประเทศอย่างไทยได้เป็นอย่างดี และยังเป็นที่ที่หากมีคำปรึกษาด้านการเรียนอย่างเช่น เขียนเรียงความภาษาอังกฤษก็สมารถไปหาคำปรึกษาได้ที่นี่ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโรงอาหาร นอกจากInternational office แล้วยังมีoffice ในตึกเดียวกันที่สามารถขอคำปรึกษาในการเลือกมหาลัย ซึ่งนักเรียนทุนแทบทุกคนต้องไปปรึกษา ป.ล. ที่สามารถปริ้นท์งานได้ด้วยแถมอยู่ใกล้หอ ถ้าหากไม่ได้ปริ้นท์งานระหว่างเดินเรียน แต่เดินจากหอมาปริ้นท์งาน ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ป.ล. ใต้ตึกมีกล่องจดหมายด้วย เราสามารถรับจดหมายได้ที่นี่ บุคคลที่สำคัญที่จะช่วยเหลือได้แก่ Mr.Mason Cox, Ms.Sarah Todd, Ms.Ling Allen

• Health center

ภาษาไทยก็ห้องพยาบาล อยู่ข้างโรงอาหาร ไปหาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ขอยา ขอการรักษาได้ อย่างเช่น บอกเหนื่อย นอนไม่หลับก็สามารถขอยานอนหลับ กับ วิตามินซีได้เป็นต้น

• Dorm

หรือ หอพัก ของพี่จะเป็นพอพักชายชื่อ Gregg AB ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงอาหาร,International Office, Health center, และโรงยิมมากนัก แต่ทว่า กลับอยู่ห่างจากอาคารเรียนพอสมควร เพราะฉะนั้นใครที่อยากจะตื่นสาย ออกหอห้านาทีก่อนเรียน คิดดูให้ดี

• Gym

หากเป็นหอชาย จะอยู่ด้านหลังของหอพัก อยู่ใกล้ๆไม่ไกลมาก

• อาคารเรียนฺ

Brewster Hall เป็นตึกเรียนวิชาประวัติศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ใกล้หอสุดในบรรดาอาคารเรียนทั้งหมด , Hine Hall ตึกวิทยาศาสตร์ , ตึกเรียนภาษา เป็นที่ไว้เรียนภาษาอังกฤษอยู่ด้านหลัง Hine Hall

• Chapel

โบสถ์ อยู่เด่นเป็นสง่าท่ามกลางอาคารเรียนทั้งหมด เข้าทุกวันยกเว้นวัน พุทธกับวันเสาร์ เข้าวันละประมาณ 20 นาที แม้เป็นศาสนาพุทธก็ต้องเข้าไปยืนแสดงความร่วมมือ แต่เราไม่ต้องร้องเพลงศาสาคริสก็ได้

• Book Store

เป็นร้านเครื่องเขียน และขายหนังสือ อยู่ไม่ห่างจาก Chapel สามารถซื้อเครื่องคิดเลข หนังสือเรียน สมุด และขนม ได้ที่นี่ ป.ล. บางครั้งเวลาพี่จะออกไปสอบนอกสถานที่แต่เช้า พี่ก็ซื้ออาหารกึ่งสำเร็จรูปจากที่นี่

• School Circle

วงเวียน ถ้าหากว่าน้องมีเรื่องที่จะต้องออกนอกโรงเรียน ไปสนามบิน หรือว่าไปสอบ TOEFL, SAT, ACT หรืออะไรก็ตามแต่ แล้วขอความช่วยเหลือจากการคมนาคมของโรงเรียน อาทิเช่น ให้ขับรถไปส่ง เราต้องมารอรถที่ตรงนี้ นอกจากคนขับจะเป็นครูคนสนิทที่สามารถมาตามเราที่หอได้ หากเราไม่ไปโผล่ที่ School Circle ซึ่งโอกาศมีน้อยมาก เอาเป็น ว่าหากขอให้รถโรงเรียนไปส่งที่ใด จงไปรอที่นี่

วิชาการ

 เป็นระบบเรียน 3 เทอม คือ Fall Term,Winter Term และ Spring Term
 ที่จะมีเรียนแค่ 5 วันต่อสัปดาห์ โดยเป็นวัฎจักรการเรียน 7 วัน(อย่างเช่นวัน มีวัน A ถึง G เป็นวัฎจักรวันเรียนทั้งหมดเจ็ดวัน ซึ่งในแต่ละวันวิชาแรกไม่เหมือนกัน ตัวอบ่างสัปดาห์แรก มีวัน A,B,C,Dและ E แต่่สัปดาห์ต่อไปมี วัน F,G, และเริ่มวนที่ A ใหม่)

เริ่มเรียน ตั้งแต่ 8:30 AM - 3:40 PM วิชาละ 45 นาที เวลาเดินไปเรียนระหว่างวิชา 5 นาที และมีคาบว่างทุกวันแน่ไม่ต้องห่วง 11:00 - 11:10 AM เป็นเวลาพบปะกับอาจารย์ที่ปรึกษาหรือ Advisory และหลังจากนั้นไปเข้าโบสถ์จนถึง 11:35 AM และก็แยกย้ายไปเรียนต่อ มี Study Hall(เวลาที่เด็กหอต้องอยู่ในเพื่อทำการบ้าน) ตอน สองทุ่ม ถึง สี่ทุ่ม (8:00 PM - 10:00 PM)

 น้องๆ จะได้รับเครดิตการเลือกลงวิชา 5 เครดิต โดยแบ่งเป็น ภาษาอังกฤษ, เลข, ประวัติศาสตร์, และวิชาเลือกของตนเอง

• English 11

เรียนภาษาอังกฤษของคลาสเกรด11 การเรียนไม่ต้องกังวลมากนักเพราะชิวๆ ออกแนวเน้นอภิปรายในห้องเรียน คาบแรกก็แนะนำตัว จากนั้นก็จะคุยเกี่ยวกับหนังสือที่ต้องอ่านตอนซัมเมอร์ น้องๆ สามารถดูได้จากเว็บไซต์ของโรงเรียน หรือเมลล์สอบถามโดยตรงก็ดี ปีพี่อ่าน Station 11 แน่นอนว่า พี่ไม่ได้อ่านไป เลยต้องเขียน essay เรื่องอื่น แต่พี่แนะนำให้น้องอ่านจาก Brewster เลย เพราะการที่เราไปขอร้องครู เพื่อเขียนเรื่องอื่นมันยุ่งยากกว่ามาก และในสัปดาห์แรกทั้งสัปดาห์ คลาสก็จะอภิปรายและเขียนเกี่ยวกับหนังสือ ถ้าน้องไม่อ่าน น้องก็จะนั่งใบ้ทั้งวีคแน่ๆ แล้วการจะเริ่มต้นพูดในคลาสก็จะยากขึ้น สละเวลาอ่านหน่อยนะ เพราะโรงเรียนเราเปิดค่อนข้างเร็ว น้องจะไม่มีวีคว่างเหมือนเพื่อนๆ ดังนั้นอ่านเก็บไปเรื่อยๆ แล้วช้อตโน้ตจุดสำคัญ และตีม (ถ้าพี่จำไม่ผิด มันให้เขียนวิเคราะห์ตีม คือน้องมีตีมหลักในใจ แล้ววิเคราะห์แต่ละตัวละครเข้าสู้ตีม) ต่อมาเราก็เรียนเกี่ยวกับ poem เน้นอ่านแล้ว วิเคราะห์ว่า ผู้แต่งสื่ออะไร ในช่วงนี้ น้องก็มโนได้เต็มที่ พยายามยกมือพูดนะ จะได้ฝึกภาษาไปในตัว เพราะครูเค้าจะไม่จี้ ไม่บังคับว่า คุณต้องพูด น้องจะนั่งเฉยๆ ทั้งคาบก็ได้ แต่แน่นอนการอภิปรายร่วมกับเพื่อนย่อมส่งผลดีต่อตัวน้อง อย่างน้อยน้องก็ได้คิด ถึงแม้น้องจะงงๆ เพราะเด็กต่างชาติ มันจะชอบเอาไปโยงนู่นนี่นั่น น้องอาจจะนอยด์ๆ ว่า พูดอะไร -*- คำแนะนำทำใจ แล้วดำน้ำต่อไป จากนั้นก็เลือกกลอนที่อ่านเขียน essay วิเคาระห์บลาๆ หลังจากนี้ไปก็จะเป็นอ่านหนังสือ สั้น ยาว ดูหนัง แล้วก็นำมาเขียน essay ในหลากหลายรูปแบบ ขึ้นกับการดีไซน์คลาสของแต่ละปี อาจจะมีอย่างอื่นเล็กน้อย เช่น grammar test, เขียนบล็อคประสบการณ์ตัวเอง, อ่าน Hamlet แล้วสอบตีความ

• Calculus AB/BC

เนื้อหาเน้นสอบ AP โดยปกติ น้องจะเรียนหนึ่งถึงสองสัปดาห์ บางครั้งอาจมี quiz แต่ครูจะบอกล่วงหน้า พอเรียนจบเรื่องก็ test จากนั้นก็ขึ้นเรื่องใหม่ๆ เป็นงี้ ไปเรื่อยๆ น้องจะมีการบ้านทุกวัน แต่วิชานี้คลาสพี่ ครูไม่ตรวจ แต่ก็ควรจะทำ มีข้อดี คือ น้องอาจจะดองไว้สองสามวันแล้วทำทีเดียว เพราะช่วงแรกน้องอ่านจะจัดการไม่ทันจริงๆ ก็ทำวิชาอื่นก่อน แล้วทำคณิตคาบว่าง เพราะการบ้านทำได้รวดเร็วอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามน้องควรทำ เพราะในคลาส คือ การเฉลยการบ้าน ครูจะเริ่มคลาสโดยให้นักเรียนถามการบ้านที่สงสัย ถ้าน้องไม่ทำ ครูเค้าก็เล็งๆ น้องละ เวลาเค้าเขียนประเมินเกรดให้ตอนหลังก็จะ ...

• History 10

เป็นวิชาประวัติศาสตร์ที่ความโหดขึ้นอยู่กับครูแตะละคน โดยเนื้อหาจะไล่ตั้งแต่ก่อนก่อตั้งอเมริกา(ชาวยุโรป) เข้ามาตั้งอาณานิคม ไปจนถึงเหตุการณ์ใหญ่ๆในอดีต อาทิเช่น การประกาศอสิรภาพ และ Civil War ซึ่งจะได้เรียน หากเป็นประวัติศาสตร์สอนโดย Mr.Mason Cox จะมีเรียนเทอมละ 4 ยูนิต หนึ่งยูนิตจะมี สอบย่อย(เรียก quiz)หนึ่งครั้ง และสอบปกติอีกหนึ่งครั้ง (มีการเขียนเรียงความตอนสอบด้วย) บางยูนิตจะมีการเก็บคะแนนแบบพิเศษอย่างเช่นเก็ยคะแนนโดยใช้ การเรียนเขียนบล็อค หรือเรียงความแทน

• AP Physics II

เน้นการทำการทดลองเป็นหลัก เปิดมาอาจารย์จะแสดงกลเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ให้ดูแล้วให้เราจดลงสมุด Lab book(สีเขียว ซื้อได้ที่Book Store) ว่ามีปรากฎการณ์ทางฟิสิกส์อะไรเกิดขึ้น การบ้านส่วนมากเป็นการอ่านบทความหรือนิยายเป็นภาษาอังกฤษแล้ว "เขียน" ว่ามีความเห็นหรือคิดยังไงกับเรื่องที่อ่าน ส่วนการบ้านที่เป็นโจทย์ฟิสกส์จะมีไม่บ่อยเท่า (แต่คะแนนเก็บแบบเต็มเม็ด เต็มหน่วย)

• Principal of Engineering

เป็นคลาสที่จะให้เราได้ลองเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นวิศวะโดนจะเริ่มสอนตั้งแต่ว่า การออกแบบและวาดรูปของวิศวะ การสร้างสิ่งก่อสร้างเบื้องต้น และหลังจากนั้นก็จะเป็นงานเกี่ยวกับวิศวะแขนงต่างๆมากให้ทำ เช่น Civil Engineering: สร้างสะพานไม้, Computer Engineering: สร้างแอพในมือถือ, Mechanical Engineering: สร้างรถจากกับดักหนู เป็นคลาสที่มีพรีเซนต์บ่อยที่สุด เฉลี่ยสองเทอมราวๆ 6 ครั้ง และงานเยอะมาก

• เหมาะสำหรับนักเรียนทุน วิชาเอก วิศวะ,ดาราศาสตร์, และ ธรณีวิทยา เพราะมีวิชา พวกนี้ให้เรียน (Geology,Astronomy,Principal of Engineering)

มีหอดูดาวด้วย

• ไม่เหมาะสำหรับนักเรียนทุกที่ต้องการเรียน วิชาเศรษศาสตร์(Economic) เป็นหลัก เพราะหากน้องต้องการเรียนวิชานี้ เราต้องลงวิชาที่เรียกว่า Social Study ซึ่งมี Economic เป็นวิชาย่อยและมีเรียนแค่เพียงเทอมเดียว

กิจกรรม

คลับ

ส่วนทางด้านคลับและกิจกรรมก็มีหลากหลายมาก และยังมีกีฬาบางตัวที่ถูกจัดรวมในหมวดนี้ด้วย ประมาณว่าถ้ามีแข่งอาจจะไม่ต้องไป เหมือน กีฬาที่โดยลิสชื่อว่าคือ กีฬาอย่างเป็นทางการ ยกตัวอย่างกีฬาที่เป็นกิจกรรมยามว่างเช่น Badminton, Water Polo Club ส่วนตัวอย่างคลับและกิจกกรมที่น่าสนใจได้แก่ Photography Club, Japan Club, Coding Club, Debate Team และ อื่นๆอีกมากมาย เดี๋ยวจะแนบไฟล์ลิสกิจกรรมและคลับไปด้านล่างครับ

กีฬา

เนื่องจากโรงเรียนไม่มีปัญหาทางสภาพอากาศ เหมือนโรงเรียนอื่นอย่างเช่น มีหิมะตกหนัก จึงไม่มีการแบ่งประเภทกีฬา ว่ากีฬาพวกนี้เป็นกีฬาฤดูไหน เราก็จะกีฬาพวก

• Baseball
• Basketball
• Cheerleading
• Crew(พายเรือ)
• Cross Country(คล้ายๆวิ่งมาราธอน)
• Football(อเมริกันฟุตบอล)
• Golf
• Lacrosse
• Soccer
• Swimming
• Track and Field
• Tennis
• Volleyball

อาหาร, หอพัก และการใช้ชีวิต

เตรียมเสื้อกันฝน ร่ม และรองเท้าดีๆสำหรับเดินขวิ่งบนพื้นที่ที่เป็นเขา

ข้อดี-ข้อด้อย

ข้อดี

1. Laundry ฟรี ใกล้ๆหอพัก

ข้อด้อย

1. ไกลจากเพื่อนๆ ฝั่งeast coast ดังนั้น เราจะไม่ได้มีกิจกรรม พบปะเยี่ยมเยีนยเพื่อนๆ ก็ เหงากันไป

รุ่นพี่ Thai Scholars

ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไข น้องๆ สามารถสอบถามพี่ฝ้าย (TS 58) ได้ที่ email: watsawan.chanchai@sstx.org หรือ facebook ค่ะ

• TS58 (2015 - 2016): พี่ฝ้าย(Fai)ทุนพสวท email: watsawan.chanchai@sstx.org [Colorado College]
• TS59 (2016 - 2017): พี่กร(Korn)ทุนกระทรวงวิทย์ Facebook: Cherdchoo Korn-aticha [Rensselaer Polytechnic Institute],
• TS59 (2016 - 2017): พี่ไนซ์(Nice)ทุนทหาร Facebook: Nicee Jittiwas [United States Air Force Academy]
• TS60 (2017 - 2018): พี่ซัน(Sun)ทุนกระทรวงวิทย์ [University of Colorado-Boulder] Facebook: Kittamet Sun Chanchaiworravit []