<br/>

<br/>

<br/>

<br/>

'''Honors Math Seminar Sequence''': ง่ายๆ ก็คือคอร์สเลขที่ยากที่สุดในโรงเรียนสามตัวนั่นเอง แตละเทอมน้องจะได้เรียนเลข 1 เนื้อหาหลัก มีทั้งหมด 3 เทอม รวมเป็น 3 เนื้อหาพอดี (Linear Algebra/ Differential Equation/ Multivariable Calculus) ถ้าน้องมีพื้นฐานเลขแข็งแรงมาตั้งแต่ที่ไทยแนะนำให้ลง sequence นี้ อาจารย์จะแอบปล่อยเกรดนิดนึง (เพราะเด็กในโรงเรียนไม่ค่อยเก่งเลข ซึ่งเป็นข้อดีของโรงเรียนที่ไม่แข็ง STEM) คะแนนเน้นจาก quiz และ final เป็นหลัก ถ้าน้องต้องการเรียนวิชาสายวิทย์ในมหาวิทยาลัยควรลงเลขระดับนี้

'''Honors Math Seminar Sequence''': ง่ายๆ ก็คือคอร์สเลขที่ยากที่สุดในโรงเรียนสามตัวนั่นเอง แต่ละเทอมเราจะได้เรียนวิชาเลข 1 เนื้อหาหลัก มีทั้งหมด 3 เทอม รวมเป็น 3 เนื้อหาพอดี (Linear Algebra/ Differential Equation/ Multivariable Calculus) ถ้ามีพื้นฐานเลขแข็งแรงมาตั้งแต่ที่ไทยแนะนำให้ลง sequence นี้ อาจารย์จะแอบปล่อยเกรดนิดนึง (เพราะเด็กในโรงเรียนไม่ค่อยเก่งเลข ซึ่งเป็นข้อดีของโรงเรียนที่ไม่แข็ง STEM) คะแนนเน้นจาก quiz และ final เป็นหลัก ถ้าต้องการเรียนวิชาสายวิทย์ในมหาวิทยาลัยควรลงเลขระดับนี้

<br/>

<br/>

<br/>

<br/>

'''Honors Calculus-based Probability Statistics''': เป็น full-year course ศึกษาสถิติที่ต้องใช้แคลคูลัสเพื่อประกอบความเข้าใจ เหมาะสำหรับน้องที่ต้องการท้าทายตัวเองด้วยการลองเรียนสถิติที่ไม่ใช่แค่ discrete-based Statistics

'''Honors Calculus-based Probability Statistics''': เป็น full-year course ศึกษาสถิติที่ต้องใช้แคลคูลัสเพื่อประกอบความเข้าใจ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการท้าทายตัวเองด้วยการลองเรียนสถิติที่ไม่ใช่แค่ discrete-based Statistics

<br/>

<br/>

<br/>

<br/>

'''Honors Calculus BC''': เป็น full-year course เกี่ยวกับ calculus bc ถ้าน้องเรียนจบและเข้าใจทุกอย่างจะสามารถสอบ AP Cal BC เดือนพฤษภาคมได้แน่ๆ

'''Honors Calculus BC''': เป็น full-year course เกี่ยวกับ calculus bc ถ้าเรียนจบและเข้าใจทุกอย่างที่สอนในห้องจะสามารถสอบ AP Cal BC เดือนพฤษภาคมได้แน่ๆ

<br/>

<br/>

<br/>

<br/>

'''Honors Physics/Mechanics''': เป็น full-year course เรียนฟิสิกส์กลศาสตร์ที่ใช้แคลคูลัสเพื่อประกอบความเข้าใจ ถ้าน้องเคยเข้า สอวนฟิสิกส์ค่าย 1 ก็จะเจอคำถามความยากระดับพอๆ กัน เป็นที่น่าเสียดายที่โรงเรียนไม่สามารถสอนเนื้อหาส่วนอื่นที่ไม่ใช่กลศาสตร์ (เช่น ไฟฟ้า แม่เหล็ก คลื่น เป็นต้น) ภายในระยะเวลาทั้งปีได้ เหมาะสำหรับน้องที่ต้องการเรียนฟิสิกส์ในแบบที่ต่างไปจากที่เคยเรียนในห้องเรียน หรือต้องการเก็บเกรดเพราะมั่นใจในฟิสิกส์แล้ว คะแนนเน้นจากการบ้านที่ทำส่งทุกๆ สอง-สามสัปดาห์เป็นหลัก มี lab และ final เล็กน้อยประกอบ (ts61 เรียนกับอาจารย์ที่สอนดีมาก แต่เนื่องจากอาจารย์ท่านนั้นเกษียณพอดี จึงไม่ทราบว่ารุ่นหลังๆ คอร์สนี้จะยังดีหรือไม่)

'''Honors Physics/Mechanics''': เป็น full-year course เรียนฟิสิกส์กลศาสตร์ที่ใช้แคลคูลัสเพื่อประกอบความเข้าใจ ถ้าเคยเข้า สอวนฟิสิกส์ค่าย 1 ก็จะเจอคำถามความยากระดับพอๆ กัน เป็นที่น่าเสียดายที่โรงเรียนไม่สามารถสอนเนื้อหาส่วนอื่นที่ไม่ใช่กลศาสตร์ (เช่น ไฟฟ้า แม่เหล็ก คลื่น เป็นต้น) ภายในระยะเวลาทั้งปีได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเรียนฟิสิกส์ในแบบที่ต้องใช้แคลคูลัสประกอบความเข้าใน หรือต้องการเก็บเกรดเพราะมั่นใจในฟิสิกส์แล้ว คะแนนเน้นจากการบ้านที่ทำส่งทุกๆ สอง-สามสัปดาห์เป็นหลัก มี lab และ final เล็กน้อยประกอบ (ts61 เรียนกับอาจารย์ที่สอนดีมาก แต่เนื่องจากอาจารย์ท่านนั้นเกษียณพอดี จึงไม่ทราบว่ารุ่นหลังๆ คอร์สนี้จะยังดีหรือไม่)

<br/>

<br/>

<br/>

<br/>

'''Honors Chemistry''': เป็น full-year course เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทบทวนความรู้วิชาเคมีในเพรพสคูล ความยากพอกับข้อสอบ สอวน เคมีค่าย 1 ทุกคาบที่เป็น long period จะต้องทำแลปและเขียนรายงานผลแลปส่งอาจารย์ ถือว่าเป็นการท้าทายเพิ่มขึ้นอีกระดับเพราะน้องจะได้เข้าห้องแลปเยอะกว่าห้องเรียนทั่วไปที่ไทย

'''Honors Chemistry''': เป็น full-year course เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทบทวนความรู้วิชาเคมีในเพรพสคูล ความยากพอกับข้อสอบ สอวน เคมีค่าย 1 ทุกคาบที่เป็น long period จะต้องทำแลปและเขียนรายงานผลแลปส่งอาจารย์ ถือว่าเป็นการท้าทายเพิ่มขึ้นอีกระดับเพราะเราจะได้เข้าห้องแลปบ่อยกว่าห้องเรียนทั่วไปที่ไทย

<br/>

<br/>

<br/>

<br/>

'''Themes in US History''': คอร์สบังคับสำหรับ ts ที่ไม่เคยเรียนประวัติศาสตร์อเมริกามาก่อน ครอบคลุมเนื้อหาประวัติศาสตร์อเมริกาตั้งแต่ยุคก่อตั้งอาณานิคมจนถึงช่วงปลายศตวรรษที่ 20 การเรียนเน้น harkness discussion โดยอาจารย์อาจให้นักเรียนไปอ่านหนังสือหรือบทความ primary/ secondary document มาแล้วมาถกกันเกี่ยวกับธีมต่างๆ ในห้อง ตัวอย่างธีมหลักของคอร์สนี้คือ government's duty/ individual liberty and responsibility/ America and the world เป็นต้น การลงคอร์สนี้ทำให้พี่รู้สึกว่าประวัติศาสตร์ไม่ใช่แค่การท่องจำ (ได้ยินมาว่า Honors US History เรียนแบบท่องจำ) แต่คือการพยายามวิเคราะห์และเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ ในประวัติศาสตร์ต่างๆ เข้าด้วยกัน การบ้านมักจะเป็น 3-8 page essay หรือ final research papers (เน้นเขียนเป็นการบ้านนั่นเอง)

'''Themes in US History''': คอร์สบังคับสำหรับ ts ที่ไม่เคยเรียนประวัติศาสตร์อเมริกามาก่อน ครอบคลุมเนื้อหาประวัติศาสตร์อเมริกาตั้งแต่ยุคก่อตั้งอาณานิคมจนถึงช่วงปลายศตวรรษที่ 20 การเรียนเน้น harkness discussion โดยอาจารย์อาจให้นักเรียนไปอ่านหนังสือหรือบทความ primary/ secondary document มาแล้วมาถกกันเกี่ยวกับธีมต่างๆ ในห้อง ตัวอย่างธีมหลักของคอร์สนี้คือ government's duty/ individual liberty and responsibility/ America and the world เป็นต้น การลงคอร์สนี้ทำให้ ts61 รู้สึกว่าประวัติศาสตร์ไม่ใช่แค่การท่องจำ (ได้ยินมาว่า Honors US History เรียนแบบท่องจำ) แต่คือการพยายามวิเคราะห์และเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ ในประวัติศาสตร์ต่างๆ เข้าด้วยกัน การบ้านมักจะเป็น 3-8 page essay หรือ final research papers (เน้นเขียนเป็นการบ้านนั่นเอง)

<br/>

<br/>

<br/>

<br/>

'''Honors Economics''': full-year course สำหรับน้องๆ ที่สนใจ AP Economics คะแนนค่อนข้างเฟ้อมาก (90% ของนักเรียนได้เกรด A) เทอมแรกเรียน Microeconomics เทอมสองเรียน Macroeconomics เทอมสามเน้นทบทวนเพื่อสอบ AP Macroecon และ AP Microecon ช่วงเดือนพฤษภาคม

'''Honors Economics''': full-year course สำหรับคนที่สนใจ AP Economics คะแนนค่อนข้างเฟ้อมาก (90% ของนักเรียนได้เกรด A) เทอมแรกเรียน Microeconomics เทอมสองเรียน Macroeconomics เทอมสามเน้นทบทวนเพื่อสอบ AP Macroecon และ AP Microecon ช่วงเดือนพฤษภาคม

<br/>

<br/>

<br/>

<br/>

'''Writing Seminar''': คอร์สบังคับสำหรับ new PG และ new Senior สอนวิธี harkness discussion ในห้องเรียนและเขียน essay เพื่อตอบคำถามที่อาจารย์ให้มา ทำให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับรุปแบบการเรียนใน Lawrenceville ได้ดีขึ้น ในห้องจะได้อ่านนิยาย 2 เล่ม discuss เรื่องที่อ่านมา (ประมาณ 20-30 หน้าต่อวัน) และได้เขียน essay 4-5 ครั้ง เป็นวิชาที่ง่ายพอสมควร น้องจะมีเวลาปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่และได้รับคำแนะนำดีๆ จากอาจารย์ทุกครั้งที่พี่อ่าน feedback ของเรียงความที่พี่ส่งไป (ซึ่ง feedback ก็แอบทำให้ท้อใจเหมือนกัน 555)

'''Writing Seminar''': คอร์สบังคับสำหรับ new PG และ new Senior สอนวิธี harkness discussion ในห้องเรียน วิธีนำเสนอ presentation และวิธีเขียน essay แบบมี citation เพื่อตอบคำถามที่อาจารย์ให้มา ทำให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับรูปแบบการเรียนใน Lawrenceville ได้ดีขึ้น ในห้องจะได้อ่านนิยาย 2 เล่ม discuss เรื่องที่อ่านมา (ประมาณ 20-30 หน้าต่อวัน) และได้เขียน essay 4-5 ครั้ง เป็นวิชาที่ง่ายพอสมควร เราจะมีเวลาปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่และได้รับคำแนะนำดีๆ จากอาจารย์ทุกครั้งที่อ่าน feedback ของเรียงความที่ส่งไป (ซึ่ง feedback ก็อาจทำให้ท้อใจนิดๆ เหมือนกัน 555)

<br/>

<br/>

<br/>

<br/>