ผลต่างระหว่างรุ่นของ "Kimball Union Academy"

จาก TSWiki
แถว 174: แถว 174:
  
 
ค่าสมัคร College สามารถ Waive ได้ แต่ค่าเดินทางค่อนข้างแพงเช่นถ้ามีสัมภาษณ์ที่ Dartmouth College ก็ต้องเสีย $15 ให้ Student Center  
 
ค่าสมัคร College สามารถ Waive ได้ แต่ค่าเดินทางค่อนข้างแพงเช่นถ้ามีสัมภาษณ์ที่ Dartmouth College ก็ต้องเสีย $15 ให้ Student Center  
 +
 +
'''Holderness day'''
 +
 +
วันนี้จะเป็นวันที่มีกีฬาทุกชนิดแข่งกับ Holderness School แต่ละปีก็จะสลับเจ้าภาพกัน สำหรับ TS59 KUA เป็นเจ้าภาพ
  
 
'''เบ็ดเตล็ด'''
 
'''เบ็ดเตล็ด'''
แถว 180: แถว 184:
 
* No Chapel
 
* No Chapel
 
* มี MacBook Pro รุ่นเก่าแจกเพราะเราอยู่แค่ปีเดียว
 
* มี MacBook Pro รุ่นเก่าแจกเพราะเราอยู่แค่ปีเดียว
 +
* Winter Long Weekend ไม่ตรงกับเพื่อน แต่ก็มี Fall Long Weekend ด้วย

รุ่นปรับปรุงเมื่อ 23:27, 18 กุมภาพันธ์ 2560

Kimball Union Academy (ชื่อที่คนส่วนใหญ่เรียกคือ KUA) เป็นโรงเรียนเอกชนที่ตั้งอยู่ในเมือง Meriden, New Hampshire ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1813 เปิดรับนักเรียนตั้งแต่ Grade 9-12 และ PG ซึ่งมีจำนวนนักเรียนทั้งหมดประมาณ 300 คน

สถานที่ต่างๆในโรงเรียน

เนื่องจากโรงเรียนตั้งอยู่ในบริเวณภูเขาทำให้เวลาจะเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆในโรงเรียนเหมือนเดินขึ้นลงที่ลาดชันตลอดเวลา (เหนื่อยจริงๆ 555)

Miller Bicentennial Hall (เรียกสั้นๆว่า Miller)

ตึกนี้มีสองชั้นไว้สำหรับการเรียนการสอนของ Language (รวม English Literature) และ Social Studies (รวม US History) และมีห้องสมุดที่ชั้นแรก

Flickinger Art Center (เรียกสั้นๆว่า Flick)

ตึกนี้ไว้สำหรับการเรียนการสอนของ Art, Dance และ Theatre ซึ่งในตึกนี้ก็มีห้องประชุมขนาดใหญ่ไว้สำหรับการแสดงละครในแต่ละเทอมและสำหรับ All School Meeting ที่มีสองครั้งต่อสัปดาห์

Fitch Science and Math Center (เรียกสั้นๆว่า Fitch)

ตึกนี้ไว้สำหรับการเรียนการสอนของ Mathematics และ Sciences

STEM Building

ตึกนี้ไว้สำหรับ STEM Activity และวิชา Physics สำหรับอาจารย์บางท่าน ตึกนี้เหมือนเป็น Workshop ที่เวลาจะทำงานอะไรเกี่ยวกับช่างก็สามารถมาได้ และมีเครื่องมือทันสมัยต่างๆ เช่น 3D Printer

Campus Center

ตึกนี้จะเป็นศูนย์กลางของโรงเรียนซึ่งจะมีทั้ง dining hall, student center, mini-mart และโต๊ะปิงปอง เวลานัดเพื่อนมาทำกิจกรรมอะไรด้วยกันก็จะมาทำกันในตึกนี้

Barnes Admission Office

ตึกนี้เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนเนื่องจากอะไรไม่รู้ 555 เป็นตึกสำหรับ Admission office ซึ่งถ้าต้องการ Passport หรือ I-20 สามารถเอามาติดต่อที่นี้ได้

Baxter Hall

ตึกนี้เป็นตึกสำหรับ College Office และ Academic Office ซึ่งเราสามารถติดต่อเปลี่ยนคอร์สหรือมาหา College Counselor ได้ที่นี้

Sport facilities

ถึงโรงเรียนจะมีจำนวนนักเรียนน้อยแต่โรงเรียนมีขนาดใหญ่มาก โรงเรียนนี้มีสนามบอลอยู่ทั้งหมด 6 สนาม มี Whittemore Athletic Center สำหรับ Ice Hockey มี Alumni Silver Gym สำหรับบาสเกตบอลและฟิตเนส และมีตึก Barn ที่เป็นสนามบอลในร่ม

Boy Dorms

Boy Dorms จะตั้งอยู่ข้างบนซึ่งไม่ค่อยห่างมากจากตึกเรียน Boy Dorms มีอยู่ทั้งหมด 4 dorms ได้แก่ Dexter-Richards (เรียกสั้นๆว่า DR), Rowe, Bryant, Densmore ซึ่งสำหรับ Senior และ PG จะได้ห้องเดี่ยวทุกคนยกเว้นว่าจะเป็น Proctor

Girl Dorms

Girl Dorms ทุกหอ (ยกเว้น Mikula ที่ห่างจาก Student Center 10 เมตร) ห่างจากที่เรียนมากๆ และอยู่ข้างล่างเขา

การเดินทางและสถานที่รอบๆโรงเรียน

โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างชนบท รอบๆโรงเรียนก็จะมีแค่ที่เติมน้ำมัน Deli กับร้านอาหารอเมริกันที่อร่อยมาก

เมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดโรงเรียนคือ Hanover, New Hampshire ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Dartmouth College และห่างจากโรงเรียนประมาณครึ่งชั่วโมง น้องสามารถมาที่นี่ได้แทบทุกสัปดาห์เพราะโรงเรียนจะมี town trip มาที่นี้ทุกสัปดาห์ เมืองนี้มีอาหารไทยและอาหารญี่ปุ่นที่อร่อยอยู่ประมาณ 2-3 ร้าน

ถ้าช่วงไหนมีวันหยุดยาวเช่น Long Weekend, Thanksgiving Break, Spring Break ทางโรงเรียนก็จะมีรถรับส่งจากโรงเรียนไปถึง Dartmouth Coach Station เพื่อนั่ง Datmouth Coach Bus ไป Boston แต่ต้องเสียตังค์คนละ $15

ถ้าน้องอยู่โรงเรียนนี้จะพบว่าการออกไปเที่ยวข้างนอกมันยากมากเพราะถึงขนาดไม่มี Uber บริการแถวๆโรงเรียน ซึ่งอย่างเดียวที่น้องจะสามารถออกนอกโรงเรียนได้คือรอโรงเรียนจัด town trip ให้ซึ่งที่ๆไปบ่อยมากที่สุดคือ Hanover, Walmart, Westlab (เหมือนเป็นห้างที่อยู่ตรงข้าม Warmart), Merrimack Premium Outlets ถ้าโชคดีหน่อยก็จะมีทริปไป Burlington, Concord, Boston (อันนี้ rare มากๆๆ)

SAT & ACT และ TOEFL

โรงเรียนนี้เป็นศูนย์สอบ SAT และ ACT ทุกเดือน (ยกเว้นเดือนมีนาคม) ห้องสอบไม่เคยซ้ำห้องเพราะฉะนั้นต้องดูเมลล์จากอาจารย์ว่าสอบที่ห้องไหนก่อนสอบ

ศูนย์สอบ TOEFL มีอยู่ 2 ศูนย์สอบได้แก่ Colby-Sawyer College (แนะนำให้สอบที่นี้เพราะห่างจากโรงเรียนครึ่งชั่วโมงและเริ่มสอบช้า) และ Concord (ห่างจากโรงเรียนสองชั่วโมงและรีบสมัครเพราะเต็มเร็ว) ซึ่งการเดินทางไปสอบ TOEFL ก็ต้องขอรถจาก Student Center พร้อมค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางเช่น ถ้าจะสอบที่ Colby-Sawyer College ต้องเสีย $150 ถ้าจะสอบที่ Concord ต้องเสีย $250 เพราะฉะนั้นหาเพื่อนไปสอบด้วยจะได้ลดค่าใช้จ่าย

Academic

โรงเรียนนี้มีอยู่ทั้งหมดสามเทอม หลักๆแล้วแต่ละเทอมจะลงกัน 5 Majors หรือ 5 Majors + 1 Minor คอร์สส่วนใหญ่เป็น Year Course และสำหรับน้องที่ลงเรียน AP โรงเรียนนี้บังคับสอบ AP วิชานั้นแต่ไม่ส่งผลต่อเกรดใน Spring

ส่วน Format ของคอร์สเรียนจะเป็น Math (1) + Sciences (2) + US History (1) + English (1) หรือ Math (2) + Sciences (1) + US History (1) + English (1)

Mathematics

คลาสเรียนสูงสุดของที่นี้จะสุ่มไปตามปี อย่างปี TS59 คือ Multivariable Calculus เห็นอาจารย์บอกว่าปีหน้าอาจจะเปลี่ยนเป็น Advanced Geometry, Linear Algebra หรืออย่างอื่น ส่วนรองลงมาก็จะมี AP Calculus BC & AB และ AP Statistics ก่อนที่จะเลือกคลาสนี้ได้ น้องจะต้องทำข้อสอบ AP ที่ Brewster ก่อน

  • Multivariable Class (By P'Win TS59)
    • คอร์สนี้ Mr. Porrazzo เป็นคนสอนคลาสนี้ Mr. Porrazzo เป็น Academic Deans ซึ่งค่อนข้างมี power มาก แนะนำว่าถ้าเรียนคลาสนี้ให้ทำตัวเด่นๆในคลาสเช่น เสนอวิธีทำที่แตกต่างจากที่อาจารย์คิด อาจารย์เค้าจะชอบน้องมากและน้องจะได้ very strong recommendation จากเค้า (จากที่เห็นใน midyear comment จากเค้า) ส่วนเรื่องเนื้อหาก็ค่อนข้างแปลกใหม่และยากแต่อาจารย์จะไปค่อยๆช้าเชื่อว่ายังไงก็ตามทันแน่นอนและได้ A ง่ายเพราะข้อสอบไม่ยาก และอาจารย์ไม่เคยตรวจการบ้าน
  • AP Calculus BC (By P'Louis TS59)

Sciences

  • AP Physics B
    • คลาสนี้เป็นคลาสฟิสิกส์ที่สูงสุดในโรงเรียน Mr. Roemer สอนคลาสนี้ Mr. Roemer เคยเป็นอาจารย์สอนเลขมาก่อนและเป็นหัวหน้า Math club ด้วย เกรดจากคลาสนี้ได้ไม่ยากมากถ้าทำการบ้านส่งเค้าทุกรอบ (การบ้านไม่เยอะ) สิ่งที่แปลกที่สุดของคลาสนี้คือข้อสอบ ข้อสอบของคลาสนี้ส่วนใหญ่จะเป็น Concept quiz ประมาณว่ามีอุปกรณ์มาให้แล้วให้อธิบายโดยห้ามยกสูตรต่างๆมาคำนวณ และมีสอบบ่อยมาก


  • AP Chemistry
    • คลาสนี้เป็นคลาสเคมีที่สูงสุดในโรงเรียน Mr. McMahon สอนคลาสนี้ อาจารย์ดุและเคร่งเรื่องกฎระเบียบมากแต่อาจารย์ก็ทุ่มเทมากเช่นกัน การบ้านไม่ค่อยมีแต่จะหนักตรง Lab Report ข้อสอบอาจารย์จะไม่ค่อยยากมากถ้าอ่านไปแต่คะแนนส่วนใหญ่ที่หายมาจาก Lab report เพราะเค้าตรวจเข้มมาก
  • Bioengineering

English

ชื่อเต็มของคลาสนี้คือ The Anti-Hero of Literature อาจารย์ที่สอนก็มีสองคนคือ Mr. Kluge และ Ms. Robert

สำหรับ Mr. Kluge นั้นคะแนนทุกอย่างมาจากการเขียน Essay จากหนังสือที่อ่านและเค้าตรวจเข้มมาก (มีครั้งนีงสูงสุดในคลาสได้ B+) แต่เค้าเข้าใจว่าเราเป็นเด็กต่างชาติและถ้าแสดงให้เค้าเห็นว่าเราทำงานหนัก Recommendation ของน้องก็จะดีมาก (ดูจาก Midyear Report) อาจารย์ไม่เคยมี Quiz หรือ Exam เลย คะแนนทั้งเทอมขึ้นแต่กับ 5 Essays ที่เขียนไปทั้งเทอม การบ้านแต่ละครั้งก็สั่งให้อ่าน Literature ประมาณ 20-30 หน้าซึ่งก็ไม่หนักมาก

...

ส่วนในเทอมสุดท้าย (Spring) เราสามารถเลือกคลาสอังกฤษตามใจชอบเรา สำหรับปี TS59 ก็จะมี Baseball, Children Literature, Creative Writing, Modern Literature, Local Literature ซึ่งน้องจะได้เลือกช่วงปลาย Winter

US History

โรงเรียนนี้บังคับนักเรียนต่างชาติทุกคนให้เรียน US History แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ต้องกังวลเพราะเกรดคลาสนี้ได้ง่ายมาก Mr. Diamond เป็นคนสอนคลาสนี้ซึ่งเค้าสอนค่อนข้างชิลมาก เทอมนึงจะมี essay อย่างมากก็ 2 essays และอาจารย์จะสั่งให้ไปอ่านหนังสือแต่ละทีแค่ประมาณ 5-6 หน้า ที่น่าจะกังวลมากที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องสอบเพราะต้องอ่านหนังสือไปแต่ตัวข้อสอบไม่ยากมาก เพราะฉะนั้นอย่าไปกังวลกับวิชานี้และที่สำคัญที่สุด น้องจะได้ดูหนังประวัติศาสตร์บ่อยมาก

แต่ถ้าอยากจะ Challenging ตัวเองก็แนะนำว่าอย่าลง Honor แต่ลง AP แทนเพราะ Honor จะเป็นอาจารย์อีกคนนึงซึ่งคนนี้ให้คะแนนโหดมากและการบ้านเยอะมาก

Art

น้องบางคนอาจจะต้องเรียนเพราะว่าไม่มี Requirement ที่โรงเรียนต้องการจากไทย แต่น้องจะเรียนแค่ 1 เทอมซึ่งวิชาพวกนี้จะไม่ค่อยซีเรียสมาก ไม่สอนทฤษฎีแต่จะมี Project สนุกๆทำทั้งเทอมเช่น Stagecraft ก็จะให้นักเรียนสร้าง Theatre เล็กๆสำหรับ Fall Concert และ Architecture ก็ให้นักเรียนออกแบบที่ว่างในโรงเรียนยังไงก็ได้ หรือเลือกคอร์ส Guitar, Dance, Pottery, Drawing และอย่างอื่นมากมาย

เบ็ดเตล็ด

  • โรงเรียนไม่มี A+ และ ESL
  • ทุกปีจะมี Senior Capstone ซึ่งน้องอาจจะทำก็ได้และน้องก็จะมีสิทธิ์ drop ได้ 1 class ใน Spring ที่ไม่ใช่ English, US History และ AP Courses ถ้าน้องอยาก drop พี่แนะนำให้ drop afternoon activity ดีกว่า
  • โรงเรียนมี midterm report แต่ไม่ official ซึ่งโรงเรียนจะไม่ส่งไปหามหาลัย เพราะฉะนั้นน้องสามารถเทเทอม Winter ได้ (อันนี้ไม่มั่นใจนะ ถาม College Counselor อีกที)
  • College Counselor ของพี่หลุย TS59 และ พี่วิน TS59 คือไม่โอเคมากๆ (Mr. Olson) เลยต้องแอบไปปรึกษาคนอื่นที่ดีกว่าอย่าง Mr. RG ที่ชื่นชอบ TS เป็นพิเศษและ Ms. Donarum ซึ่งเค้าช่วยดีมาก
  • College Counselor จะไม่ยุ่งกับเรา เพราะฉะนั้นเราต้องไปหาเค้าด้วยตัวเองตลอด
  • เรียนวันพุธครึ่งวันและวันเสาร์ครึ่งวัน
  • รวมๆแล้วงานไม่หนักมาก
  • ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสจะมี All School Meeting และวันพุธก่อนกินข้าวจะมีคุยกับ Teacher Advisor เรื่องชีวิตในโรงเรียนและ College
  • สามารถ Cancel การบ้านได้ถ้าการบ้านสั่งหลัง 6 โมงเย็นก่อนวันส่งได้

Activities and Clubs

(Louis)

Rules

Time Schedule

  • Study Hour ตั้งแต่ 8.00 PM ถึง 9.30 PM ซึ่งสำหรับ senior ที่มาใหม่ต้องทำงานในหอตัวเอง และถ้าทำเกรดได้ดีก็จะได้ Campus Privilege ในเทอมหน้าซึ่งสามารถไปอ่านหนังสือที่ไหนก็ได้ของโรงเรียน และในช่วงเวลานี้โรงเรียนจะบล็อคพวก Social Media ต่างๆ (ใช้ VPN ได้)
  • Check-in 10.00 PM สำหรับวันอังคารจะมี Dorm Meeting 9.45 PM
  • In-room 11.00 PM หลังจากเวลานี้ต้องอยู่ห้องตัวเอง
  • Light out 11.30 PM ไม่ต้องปิดไฟก็ได้แต่เน็ตตัด เน็ตจะเปิดอีกทีตอน 6.00 AM
  • สำหรับ Weekend จะไม่มี Study Hour ยกเว้นว่าจะทำอะไรผิดในช่วง Weekday ก็จะบังคับให้มี Study Hour กับคนๆนั้น
  • Weekend ไม่มี Light out แต่เน็ตจะบล็อคทุกเว็บประมาณ 12.30 AM แต่สามารถใช้ VPN ได้

Dorm rules

  • ห้ามเอาสิ่งใดที่จุดไฟได้เช่นไฟแช็ค ไม่งั้นมีสิทธิโดนไล่ออก (DR ไฟไหม้มาสองรอบแล้ว)
  • ห้ามมีตู้เย็นในห้องตัวเอง แต่เอาของไปแช่ในห้อง Proctor ได้

Dress Code

  • สำหรับผู้ชายแค่ใส่เสื้อมีปกและกางเกงอะไรก็ได้ไม่ใช่ยีนส์ และห้ามใส่รองเท้าสำหรับเล่นกีฬา
  • ผู้หญิงไม่รู้

Tardy and Absent

  • ที่นี่ขอ Excused ไม่ยากมาก เพราะฉะนั้นแค่น้องรู้สึกปวดหัวก็บอก Health Center ขอ Excused ได้แล้ว

Daily Life

Food

อาหารที่นี้ก็ไม่ได้ดีมากแต่พอกินได้ ทุกมื้อจะมีแต่ไก่ ซึ่งแรกๆก็อร่อยแต่หลังๆก็ขึ้นอยู่กับคน ทุกๆเที่ยงจะมี Stir fried station ซึ่งเราสามารถไปทำกับข้าวเองได้แต่คนเยอะมากๆ อาหารที่นี้ค่อนข้างขึ้นชื่อเรื่อง Salad Bar กับ Sandwich Bar เพราะของเยอะมาก (อาจจะเป็นเพราะอาหารไม่อร่อย 555) และคุกกี้อร่อยมาก

ทุกๆคืนจะมีรถอาหารจีนมาส่งที่หอประมาณ 4 ทุ่มมาขาย คนขายชื่อ Ling และสนิทกับนักเรียนและครูมากๆ อาหารก็ใช้ได้ เฉลี่ยจานละ $7 และมีรถส่งพิซซ่าทีต้องโทรสั่งเค้า รับรองว่ามาอยู่นี้แล้วไม่อดอยากเพราะถ้าเบื่ออาหารโรงเรียนก็กินมื้อดึกได้

Weekend Life

เนื่องจากโรงเรียนนี้ uber เข้าไม่ถึงจึงทำให้ทุกสัปดาห์จะมีทริปออกไปข้างนอกตลอดซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสัปดาห์ด้วย และในโรงเรียนก็อาจจะมีกิจกรรมเช่นดูหนัง เล่นบอล หรือ Ping Pong Competition

Laundry

คล้ายๆของ Brewster แต่ใช้บัตรจ่ายหรือจะใช้บริการ E&R Laundry ก็ได้

Internet & Telecommunication

ที่หอพัก เน็ตค่อนข้างช้า แต่ที่ Campus Center เน็ตเร็วมาก และที่ Campus center จะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แต่ที่ dorm จะมีและค่อนข้างแรงด้วย

Dorm Life

Dorm Parent ที่นี้มีตั้งแต่ไม่เข้มอะไรเลยจนถึงเข้มมากถึงมากที่สุด แต่ละวันก็ลุ้นว่าใครเป็น Dorm Parent ทุกๆวันอังคารจะมี Room Inspection ถ้าไม่ผ่านก็จะมีบทลงโทษคือเสีย $0.25 กับเป็นเวรเก็บขยะทั้งสัปดาห์

ค่าใช้จ่าย

ค่าสมัคร College สามารถ Waive ได้ แต่ค่าเดินทางค่อนข้างแพงเช่นถ้ามีสัมภาษณ์ที่ Dartmouth College ก็ต้องเสีย $15 ให้ Student Center

Holderness day

วันนี้จะเป็นวันที่มีกีฬาทุกชนิดแข่งกับ Holderness School แต่ละปีก็จะสลับเจ้าภาพกัน สำหรับ TS59 KUA เป็นเจ้าภาพ

เบ็ดเตล็ด

  • มี Formal Dinner เดือนละครั้ง
  • No Chapel
  • มี MacBook Pro รุ่นเก่าแจกเพราะเราอยู่แค่ปีเดียว
  • Winter Long Weekend ไม่ตรงกับเพื่อน แต่ก็มี Fall Long Weekend ด้วย