==สาระล้วนๆ==
 
==สาระล้วนๆ==
 +
* '''ตัวหนาคือเขียนเพิ่มเติมโดยพี่เฟือง TS59 นะครับผม แต่จริงๆ ก็มีขึ้นหัวข้อใหม่ไว้ด้วย เพราะงั้นถ้าพี่เขียนก็จะแอบมีเขียนว่า by TS59 อีกที'''
 
* เว็ปโรงเรียน http://www.oes.edu/
 
* เว็ปโรงเรียน http://www.oes.edu/
 
* OES หรือ Oregon Episcopal School เป็นโรงเรียนเอกชน ชื่อดังจากฝั่ง west coast เป็นโรงเรียนที่ รวม lower school (1-5 grade) middle school (6-8 grade) upper school (9-12 grade) เข้าด้วยกัน
 
* OES หรือ Oregon Episcopal School เป็นโรงเรียนเอกชน ชื่อดังจากฝั่ง west coast เป็นโรงเรียนที่ รวม lower school (1-5 grade) middle school (6-8 grade) upper school (9-12 grade) เข้าด้วยกัน
 
**Off campus service : บำเพ็ญประโยชน์นอกสถานที่ (5 hr for TS)
 
**Off campus service : บำเพ็ญประโยชน์นอกสถานที่ (5 hr for TS)
 
**Service Project        : ทำบันทึกเเละพรีเซนเทชั่น ของ กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ที่เข้าร่วมเป็นเวลานาน
 
**Service Project        : ทำบันทึกเเละพรีเซนเทชั่น ของ กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ที่เข้าร่วมเป็นเวลานาน
**โดยคนที่ดูแลเกี่ยวกับ Service คือ Robin Schauffler ซึ่งเป็นคนที่คุยได้ง่ายชิวๆ อีกอย่างเค้าเคยสอนอังกฤษมาก่อน มีปัญหาภาษาอังกฤษก็ปรึกษาได้เช่นกัน
+
**'''โดยคนที่ดูแลเกี่ยวกับ Service คือ Robin Schauffler ซึ่งเป็นคนที่คุยได้ง่ายชิวๆ อีกอย่างเค้าเคยสอนอังกฤษมาก่อน มีปัญหาภาษาอังกฤษก็ปรึกษาได้เช่นกัน'''
 
*ไม่บังคับเครื่องเเต่งกายนักเรียน
 
*ไม่บังคับเครื่องเเต่งกายนักเรียน
 
*ตารางเรียน จะเป็นเเบบ หมุนวิชากัน โดยนักเรียนเลือกลงทะเบียนได้มากที่สุด 7 วิชา ใน คาบ A B C D E F G ใน 1 วันจะเรียน 6 วิชา การสับเปลี่ยนตารางเรียนให้ไปคุยกับ Deri Bash ที่ดูเเลเรื่องตารางเรียน
 
*ตารางเรียน จะเป็นเเบบ หมุนวิชากัน โดยนักเรียนเลือกลงทะเบียนได้มากที่สุด 7 วิชา ใน คาบ A B C D E F G ใน 1 วันจะเรียน 6 วิชา การสับเปลี่ยนตารางเรียนให้ไปคุยกับ Deri Bash ที่ดูเเลเรื่องตารางเรียน
 
นักเรียนจะลงทะเบียน Activity ได้สามครั้ง (มี 3 Trimesters: ช่วง Fall, Winter, and Spring) เพื่อทำในกิจกรรมที่สนใจ เช่น Aikido, Acappella, Robot
 
นักเรียนจะลงทะเบียน Activity ได้สามครั้ง (มี 3 Trimesters: ช่วง Fall, Winter, and Spring) เพื่อทำในกิจกรรมที่สนใจ เช่น Aikido, Acappella, Robot
 
  สำหรับคนที่ไม่สนใจ 12th grade  ไม่มีความจะเป็นต้องลงทะเบียน activity (เเต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี)
 
  สำหรับคนที่ไม่สนใจ 12th grade  ไม่มีความจะเป็นต้องลงทะเบียน activity (เเต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี)
  บาง Activity สามารถนำไปขอ service hour ได้ เช่น Green House “มาช่วยครูทำสวนกันเถอะ” [recomended] Stagecraft (เกี่ยวกับการเตรียม Play ซึ่งเป็นการแสดงใหญ่ของโรงเรียนที่จะจัดทุก Trimester)
+
  บาง Activity สามารถนำไปขอ service hour ได้ เช่น Green House “มาช่วยครูทำสวนกันเถอะ” [recomended] '''Stagecraft (เกี่ยวกับการเตรียม Play ซึ่งเป็นการแสดงใหญ่ของโรงเรียนที่จะจัดทุก Trimester)'''
 
*X period (10.20am.-10.50am.)
 
*X period (10.20am.-10.50am.)
Gathering or Advisory or Activity พูดง่ายๆ คือ แล้วแต่วัน
+
Gathering or Advisory or Activity '''พูดง่ายๆ คือ แล้วแต่วัน'''
*คือโรงเรียนจะฉาย Projecter ใน Great Hall ทุกวันว่าแต่ละวันจะมีอะไรเกิดขึ้น เช่น คาบแรกเป็นคาบอะไร (A-F) มี Gathering ไหม หรือมีกิจกรรมอื่นแทน เป็นต้น
+
*'''คือโรงเรียนจะฉาย Projecter ใน Great Hall ทุกวันว่าแต่ละวันจะมีอะไรเกิดขึ้น เช่น คาบแรกเป็นคาบอะไร (A-F) มี Gathering ไหม หรือมีกิจกรรมอื่นแทน เป็นต้น'''
    
==วิชาบังคับ==
 
==วิชาบังคับ==
 
*Science 1 ตัว เเละ Math 1 ตัว TS ไม่ค่อยมีปัญหากับวิชาพวกนี้ สามารถลงคอร์สยากๆ ได้ ปล อาจจะชอคตายได้ถ้าเจอ Python ใน Linear Algebra
 
*Science 1 ตัว เเละ Math 1 ตัว TS ไม่ค่อยมีปัญหากับวิชาพวกนี้ สามารถลงคอร์สยากๆ ได้ ปล อาจจะชอคตายได้ถ้าเจอ Python ใน Linear Algebra
   −
To be more specific กับปีล่าสุด by TS59 (อันนี้เป็นแค่เทอมแรก เพราะตอนนี้พี่พึ่งจะกำลังเริ่มเทอมสอง 555)
+
'''To be more specific กับปีล่าสุด by TS59 (อันนี้เป็นแค่เทอมแรก เพราะตอนนี้พี่พึ่งจะกำลังเริ่มเทอมสอง 555)
 
* English 11 สอนโดย Alana Kaholokula (ไม่ต้องแปลกใจ อาจารย์เป็นคนฮาวาย 555)  
 
* English 11 สอนโดย Alana Kaholokula (ไม่ต้องแปลกใจ อาจารย์เป็นคนฮาวาย 555)  
 
ต้องก่อนเริ่มว่าก็น่ากลัวพอสมควรเพราะตั้งแต่มีคนถามว่าเรียนอังกฤษกับใครแล้วตอบว่า Alana ทุกคนก็บอกว่าให้เกรดยาก (ยังไงซะคิดว่า TS น่าจะเจอคนนี้ทุกคนเพราะเจอ Alana ติดกันมาหลายปีแล้ว) ในวิชานี้ถ้าจะพูดง่ายๆ ก็คือวิชา Literature โดยปกติจะมี Poem ให้อ่านทุกวันในคาบ แล้วก็ discuss กัน แล้วก็จะมี reading assignment ให้อ่านเป็นปกติ โดยก็จะออกแนว narrative นิดๆ เพราะเป็น literature ที่สำคัญมากๆ คือ ช่วง October จนจบปี วิชานี้จะมีงานที่ทุกคนต่างเกรงกลัวคือ Literary Journalism Project (LJP) ซึ่งนักเรียนจะต้องหาเรื่องที่สนใจใน Portland แล้วเขียน Narrative Writing ที่ยาวใช้ได้ (ปกติประมาณ 10 หน้า) การทำ LJP นักเรียนจะต้องไปสัมภาษณ์ (Interview) คนข้างนอกที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่จะทำ ออกไปสำรวจพื้นที่จริง (Site Visit) แล้วก็ต้องหาหนังสือหรือ sources อื่นๆ มาทำ (อย่างต่ำ ต้องมีหนังสือหลักหนึ่งเล่ม แล้วก็พวก Magazine 1 source) นับว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก ซึ่งตอนที่พี่ทำตอนแรกก็เซ็งอยู่แบบจะให้ไปเริ่มยังไง ก็พึ่งจะมาถึงนี่ จะไปรู้อะไรเกี่ยวกับ Portland แต่ก็ไม่ต้องคิดมาก มีปัญหาอะไรปรึกษาอาจารย์ได้ตลอดแล้วเดี๋ยวมันก็จะออกมาเอง พอพี่เริ่มทำมันก็ดีขึ้นเรื่อยได้ลองเดินทางไป Site Visit ด้วยตัวเอง ได้คุยสัมภาษณ์คนอื่น (จะไม่พูดถึงหาหนังสือไรละกันเพราะเซ็งพอสมควรตอนแรก 555 แต่ถ้าคิดว่าสนใจเล่มไหนหลังจากหาข้อมูลดูก็ส่งเมลไปถาม Chrsi Myers ได้ เค้าทำงานห้องสมุดซึ่งก็ให้เค้าช่วยหาให้ได้) ทีนี้มันจะเริ่มเพลินตอนเขียนอะ ใครมันจะไปคิดว่าตัวเองจะนั่งเขียน Narrative Writing เป็นสิบหน้าได้ 555 คือเสร็จแล้วก็ภูมิใจอยู่ มีปัญหาการเขียนก็ปรึกษาอาจารย์ได้ตลอด (มีคนนึงชื่อ Robin Weitzer เค้าช่วย TS เกี่ยวกับภาษาอังกฤษมานาน เพราะฉนั้นให้เค้าช่วยดู LJP ได้ รวมถึง College Essays และ TOEFL และอื่นๆ เป็นคนที่ช่วยได้ดีมาก) ทีนี้พอเริ่ม Jan ซึ่งยังเป็น Fall term อยู่จะต้องมีอ่าน The Great Gatsby ซึ่งคิดว่า TS บางคนคงได้อ่านที่ Brewster ก็ท้าทายนิดหน่อยกับคนที่ไม่เคยอ่าน Novel พอพ้นเทอมแรกก็จะเจอกับมหันตภัย Novel ให้อ่านมากมายซึ่งพี่ก็ยังไม่เจอ เดี๋ยวรอดู 555
 
ต้องก่อนเริ่มว่าก็น่ากลัวพอสมควรเพราะตั้งแต่มีคนถามว่าเรียนอังกฤษกับใครแล้วตอบว่า Alana ทุกคนก็บอกว่าให้เกรดยาก (ยังไงซะคิดว่า TS น่าจะเจอคนนี้ทุกคนเพราะเจอ Alana ติดกันมาหลายปีแล้ว) ในวิชานี้ถ้าจะพูดง่ายๆ ก็คือวิชา Literature โดยปกติจะมี Poem ให้อ่านทุกวันในคาบ แล้วก็ discuss กัน แล้วก็จะมี reading assignment ให้อ่านเป็นปกติ โดยก็จะออกแนว narrative นิดๆ เพราะเป็น literature ที่สำคัญมากๆ คือ ช่วง October จนจบปี วิชานี้จะมีงานที่ทุกคนต่างเกรงกลัวคือ Literary Journalism Project (LJP) ซึ่งนักเรียนจะต้องหาเรื่องที่สนใจใน Portland แล้วเขียน Narrative Writing ที่ยาวใช้ได้ (ปกติประมาณ 10 หน้า) การทำ LJP นักเรียนจะต้องไปสัมภาษณ์ (Interview) คนข้างนอกที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่จะทำ ออกไปสำรวจพื้นที่จริง (Site Visit) แล้วก็ต้องหาหนังสือหรือ sources อื่นๆ มาทำ (อย่างต่ำ ต้องมีหนังสือหลักหนึ่งเล่ม แล้วก็พวก Magazine 1 source) นับว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก ซึ่งตอนที่พี่ทำตอนแรกก็เซ็งอยู่แบบจะให้ไปเริ่มยังไง ก็พึ่งจะมาถึงนี่ จะไปรู้อะไรเกี่ยวกับ Portland แต่ก็ไม่ต้องคิดมาก มีปัญหาอะไรปรึกษาอาจารย์ได้ตลอดแล้วเดี๋ยวมันก็จะออกมาเอง พอพี่เริ่มทำมันก็ดีขึ้นเรื่อยได้ลองเดินทางไป Site Visit ด้วยตัวเอง ได้คุยสัมภาษณ์คนอื่น (จะไม่พูดถึงหาหนังสือไรละกันเพราะเซ็งพอสมควรตอนแรก 555 แต่ถ้าคิดว่าสนใจเล่มไหนหลังจากหาข้อมูลดูก็ส่งเมลไปถาม Chrsi Myers ได้ เค้าทำงานห้องสมุดซึ่งก็ให้เค้าช่วยหาให้ได้) ทีนี้มันจะเริ่มเพลินตอนเขียนอะ ใครมันจะไปคิดว่าตัวเองจะนั่งเขียน Narrative Writing เป็นสิบหน้าได้ 555 คือเสร็จแล้วก็ภูมิใจอยู่ มีปัญหาการเขียนก็ปรึกษาอาจารย์ได้ตลอด (มีคนนึงชื่อ Robin Weitzer เค้าช่วย TS เกี่ยวกับภาษาอังกฤษมานาน เพราะฉนั้นให้เค้าช่วยดู LJP ได้ รวมถึง College Essays และ TOEFL และอื่นๆ เป็นคนที่ช่วยได้ดีมาก) ทีนี้พอเริ่ม Jan ซึ่งยังเป็น Fall term อยู่จะต้องมีอ่าน The Great Gatsby ซึ่งคิดว่า TS บางคนคงได้อ่านที่ Brewster ก็ท้าทายนิดหน่อยกับคนที่ไม่เคยอ่าน Novel พอพ้นเทอมแรกก็จะเจอกับมหันตภัย Novel ให้อ่านมากมายซึ่งพี่ก็ยังไม่เจอ เดี๋ยวรอดู 555
 
*Marine Ecology สอนโดน Robert Orr หรือ Rob เป็นคนที่มึนอีกเช่นเคย (ไม่เข้าใจว่าทำไมดูมึนๆ ทุกคน หรือว่าคิดไปเอง 555) สอนชิวๆ สบายๆ Happy teacher Happy Class
 
*Marine Ecology สอนโดน Robert Orr หรือ Rob เป็นคนที่มึนอีกเช่นเคย (ไม่เข้าใจว่าทำไมดูมึนๆ ทุกคน หรือว่าคิดไปเอง 555) สอนชิวๆ สบายๆ Happy teacher Happy Class
 
เป็นคลาสเทอมเดียวโดยปกติจะมีเนื้อหาหลักๆ เกี่ยวกับ Marine เช่น พวก Ecosystem, Global Issue, Human Interaction, blah blah ซึ่งเรียนชิวๆ งานน้อย ส่วนใหญ่เป็น Presentation ซึ่งก็ถูไถง่ายๆ ไม่ยาก พูดง่ายๆ คือเป็น class ที่ชิวสุดในทุก class และที่สำคัญที่สุด Class นี้มี Trip ให้ออกไปเรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งพี่ได้ไปกิน Oyster ฟรี (คนละตัวพอมันแพง 555) ไปพิพิธภัณฑ์ ไปสำรวจชายฝั่งทะเล (ไม่ใช่ให้คนเล่นน้ำ) แบบเป็นโขดหิน ก็เห็นความแตกต่างของทะเลไทยกับที่นี่ได้ดี แล้วก็ได้ดู Tide Pool ซึ่งก็แปลกใหม่พอสมควร แต่ที่พักแย่ไปหน่อย พี่ไม่อาบน้ำอะ รันทดเกินไป 555 ปล เจอแมวน้ำจริงๆ แบบในระบบนิเวศด้วย ก็แปลกดีน่ารักด้วย 555
 
เป็นคลาสเทอมเดียวโดยปกติจะมีเนื้อหาหลักๆ เกี่ยวกับ Marine เช่น พวก Ecosystem, Global Issue, Human Interaction, blah blah ซึ่งเรียนชิวๆ งานน้อย ส่วนใหญ่เป็น Presentation ซึ่งก็ถูไถง่ายๆ ไม่ยาก พูดง่ายๆ คือเป็น class ที่ชิวสุดในทุก class และที่สำคัญที่สุด Class นี้มี Trip ให้ออกไปเรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งพี่ได้ไปกิน Oyster ฟรี (คนละตัวพอมันแพง 555) ไปพิพิธภัณฑ์ ไปสำรวจชายฝั่งทะเล (ไม่ใช่ให้คนเล่นน้ำ) แบบเป็นโขดหิน ก็เห็นความแตกต่างของทะเลไทยกับที่นี่ได้ดี แล้วก็ได้ดู Tide Pool ซึ่งก็แปลกใหม่พอสมควร แต่ที่พักแย่ไปหน่อย พี่ไม่อาบน้ำอะ รันทดเกินไป 555 ปล เจอแมวน้ำจริงๆ แบบในระบบนิเวศด้วย ก็แปลกดีน่ารักด้วย 555
*คลาสอื่นที่พี่ลงใรเทอมสองก็มี Religion and Social Justice, US History I, Differential Equation ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างต้องรอดู
+
*คลาสอื่นที่พี่ลงใรเทอมสองก็มี Religion and Social Justice, US History I, Differential Equation ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างต้องรอดู'''
    
==ชีวิตในหอพัก==
 
==ชีวิตในหอพัก==
 
*ห้องคู่ นอนกับรูมเมท (มีแค่ Prefect ที่มีห้องเดี่ยว ซึ่ง TS ก็นอนห้องคู่โดยปริยาย)
 
*ห้องคู่ นอนกับรูมเมท (มีแค่ Prefect ที่มีห้องเดี่ยว ซึ่ง TS ก็นอนห้องคู่โดยปริยาย)
   −
More Information about Dorm Life by TS59
+
'''More Information about Dorm Life by TS59
 
*ต้องบอกก่อนว่าจริงๆ ก็เสียใจนะตอนแรกที่รู้ว่าได้ OES เพราะแบบไกลเพื่อนไรงี้ แต่ไอวันที่ออกจาก Brewster อะรู้สึกตื่นเต้นแทนไม่รู้ทำไม พอมาถึงปุ้บแบบนั่งรอรถจาก OES มารับที่ Portland International Airport ประมาณชั่วโมงนึงได้ตอนนั้นแบบมึนมากว่าแบบชีวิตนี้จะต้องทำยังไงต่อไป อยู่คนเดียวเบอร์ก็ไม่มีมีแต่ Wifi สนามบินลางๆ นั่งรอรถใครจากไหนก็ไม่รุ้มารับ ข้าวก็ไม่ได้กินเลยตั้งแต่เช้าผ่านมากเป็น 10 ชม. แบบรู้สึกเฟลพอสมควร พอรถมารับแล้วไปถึง dorm เท่านั้นแหละแบบแบกของไปวางในห้องเปิดประตูไว้ Dorm parent ก็เดินเข้ามาหาแบบเป็นไงเดินทางคุยสารทุกสุกดิบ (ขออภัยถ้าเขียนภาษาไทยผิด) แล้วก็แบบมีอะไรจะเอาไหมแล้วเค้าก็หยิบพวกผ้าปูที่นอนหมอนผ้าห่มมาให้ มาจัดเตียงให้เพราะบอกทำไม่เป็น แบบบอกเลยว่า First Impression หลังจากนั้นก็แบบ Dorm life ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ อะ แบบไม่เคยเสียใจเลยที่มาอยู่ที่นี่หลังจากวันนั้น Hppa life มาก  
 
*ต้องบอกก่อนว่าจริงๆ ก็เสียใจนะตอนแรกที่รู้ว่าได้ OES เพราะแบบไกลเพื่อนไรงี้ แต่ไอวันที่ออกจาก Brewster อะรู้สึกตื่นเต้นแทนไม่รู้ทำไม พอมาถึงปุ้บแบบนั่งรอรถจาก OES มารับที่ Portland International Airport ประมาณชั่วโมงนึงได้ตอนนั้นแบบมึนมากว่าแบบชีวิตนี้จะต้องทำยังไงต่อไป อยู่คนเดียวเบอร์ก็ไม่มีมีแต่ Wifi สนามบินลางๆ นั่งรอรถใครจากไหนก็ไม่รุ้มารับ ข้าวก็ไม่ได้กินเลยตั้งแต่เช้าผ่านมากเป็น 10 ชม. แบบรู้สึกเฟลพอสมควร พอรถมารับแล้วไปถึง dorm เท่านั้นแหละแบบแบกของไปวางในห้องเปิดประตูไว้ Dorm parent ก็เดินเข้ามาหาแบบเป็นไงเดินทางคุยสารทุกสุกดิบ (ขออภัยถ้าเขียนภาษาไทยผิด) แล้วก็แบบมีอะไรจะเอาไหมแล้วเค้าก็หยิบพวกผ้าปูที่นอนหมอนผ้าห่มมาให้ มาจัดเตียงให้เพราะบอกทำไม่เป็น แบบบอกเลยว่า First Impression หลังจากนั้นก็แบบ Dorm life ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ อะ แบบไม่เคยเสียใจเลยที่มาอยู่ที่นี่หลังจากวันนั้น Hppa life มาก  
 
*ถ้าจะให้เสริมเรื่อง Dorm activity ก็ขอบอกว่า Dorm provides ให้หมดเลย วันนึงบอกอยากดูหนังเค้าก็บอกว่าให้จัด Activity ไหมพี่ก็เลยจัดการส่งเมลหา dormies (คนใน dorm) ทุกคนว่าเราจะมี activity ไปดูหนังเวลาช่วงนี้ๆ แบบ ชีวิตบรรเทิงเงินก็ไม่เสีย พวก Dorm activity เราไม่ต้องออกเองเลย เว้นแต่บางอย่างเช่น Sinju Sushi ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นหรูๆ ที่ Bridgeport (ปกไปดูหนัง) ซึ่ง dorm จะออกให้ครึ่งนึง เพราะค่าอาหารมันแพงแบบวันนึงไป 14 คนมั้งหมดไป 500 กว่าดอล แบบชอค 555 แต่ก็อร่อยมาก+บริการดี แต่รุ้สึกว่าการ order อาหารจะมึนๆ เล็กน้อยถึงปานกลาง 555 จริงๆ แล้วจะมีที่ดูหนังอีกที่ที่ใกล้และไปบ่อยกว่าคือ CENTURY 16 CEDAR HILLS ซึ่งปกติ dorm ก็ออกให้หมดรวมถึงพวก Popcorn Starbucks หรือ snacks ต่างๆ พี่พูดได้ว่าเป็นคนนึงดูหนังบ่อยสุดใน TS รุ่นนี้ 555 ไม่เรื่องดังๆ พลาดสักเรื่อง  
 
*ถ้าจะให้เสริมเรื่อง Dorm activity ก็ขอบอกว่า Dorm provides ให้หมดเลย วันนึงบอกอยากดูหนังเค้าก็บอกว่าให้จัด Activity ไหมพี่ก็เลยจัดการส่งเมลหา dormies (คนใน dorm) ทุกคนว่าเราจะมี activity ไปดูหนังเวลาช่วงนี้ๆ แบบ ชีวิตบรรเทิงเงินก็ไม่เสีย พวก Dorm activity เราไม่ต้องออกเองเลย เว้นแต่บางอย่างเช่น Sinju Sushi ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นหรูๆ ที่ Bridgeport (ปกไปดูหนัง) ซึ่ง dorm จะออกให้ครึ่งนึง เพราะค่าอาหารมันแพงแบบวันนึงไป 14 คนมั้งหมดไป 500 กว่าดอล แบบชอค 555 แต่ก็อร่อยมาก+บริการดี แต่รุ้สึกว่าการ order อาหารจะมึนๆ เล็กน้อยถึงปานกลาง 555 จริงๆ แล้วจะมีที่ดูหนังอีกที่ที่ใกล้และไปบ่อยกว่าคือ CENTURY 16 CEDAR HILLS ซึ่งปกติ dorm ก็ออกให้หมดรวมถึงพวก Popcorn Starbucks หรือ snacks ต่างๆ พี่พูดได้ว่าเป็นคนนึงดูหนังบ่อยสุดใน TS รุ่นนี้ 555 ไม่เรื่องดังๆ พลาดสักเรื่อง  
 
*เราจะมีกลุ่มอยู่สองแบบใน Dorm คือ Prefect Group และ Dorm Family โดย Prefect group หลักๆ คือเอาไว้ทำงานพวกแบบทำความสะอาด Dorm ซึ่งจะเวียนกันและรวมตัวเวลามีเหตุฉุกเฉิน Dorm Family คือกลุ่มที่จะนั่งด้วยกันช่วง Family Dinner ซึ่งจะมีทุกวันศุกร์ 6:00 pm แล้วตามด้วย Dorm meeting ปกติก็เหมือนเป็น Family เดียวกัน
 
*เราจะมีกลุ่มอยู่สองแบบใน Dorm คือ Prefect Group และ Dorm Family โดย Prefect group หลักๆ คือเอาไว้ทำงานพวกแบบทำความสะอาด Dorm ซึ่งจะเวียนกันและรวมตัวเวลามีเหตุฉุกเฉิน Dorm Family คือกลุ่มที่จะนั่งด้วยกันช่วง Family Dinner ซึ่งจะมีทุกวันศุกร์ 6:00 pm แล้วตามด้วย Dorm meeting ปกติก็เหมือนเป็น Family เดียวกัน
 
*ฝากน้องๆ TS60 ที่จะไป OES ทักทายเพื่อนพี่ด้วย Henry Banning (ปีน้องเป็น Sophomore) 555
 
*ฝากน้องๆ TS60 ที่จะไป OES ทักทายเพื่อนพี่ด้วย Henry Banning (ปีน้องเป็น Sophomore) 555
*ลืมไปว่าพี่ไม่ได้ลงกีฬาเลย เลยแบบหาเพื่อนยากตอนแรก ก็ต้องพยายามหน่อย คือพอดีพี่ดวงดีที่ตอนวัน Orientation ไปนั่งติดกับเพื่อนคนนั้นแล้วเผอิญอยู่ Dorm family เดียวกันเลยคุยกันได้
+
*ลืมไปว่าพี่ไม่ได้ลงกีฬาเลย เลยแบบหาเพื่อนยากตอนแรก ก็ต้องพยายามหน่อย คือพอดีพี่ดวงดีที่ตอนวัน Orientation ไปนั่งติดกับเพื่อนคนนั้นแล้วเผอิญอยู่ Dorm family เดียวกันเลยคุยกันได้'''
   −
==Dorm Parents & Teachers==
+
==Dorm Parents & Teachers by TS59==
 
*ผู้แจกความสุขให้ Dorm Students ทุกคน
 
*ผู้แจกความสุขให้ Dorm Students ทุกคน
 
*Deri Bash
 
*Deri Bash
 
==การสอบ==
 
==การสอบ==
 
*โรงเรียนไม่ใช่ศุนย์สอบ  TOEFL, AP, SAT, ACT เเต่สำหรับเด็กหอ โรงเรียนจะจัดการรับส่งได้ถ้าติดต่อล่วงหน้า
 
*โรงเรียนไม่ใช่ศุนย์สอบ  TOEFL, AP, SAT, ACT เเต่สำหรับเด็กหอ โรงเรียนจะจัดการรับส่งได้ถ้าติดต่อล่วงหน้า
*โรงเรียนมี หนังสือ SAT, AP, ACT ให้นักเรียนยืมอ่านได้ เเต่ไม่มีหนังสือคู่มือ TOEFL (คิดว่าปัจจุบันมี ถ้าไม่มีก็ไปขอ Robin Weitzer อย่างที่บอกไปใน part English 11)
+
*โรงเรียนมี หนังสือ SAT, AP, ACT ให้นักเรียนยืมอ่านได้ เเต่ไม่มีหนังสือคู่มือ TOEFL '''(คิดว่าปัจจุบันมี ถ้าไม่มีก็ไปขอ Robin Weitzer อย่างที่บอกไปใน part English 11)'''
   Exception encountered, of type "Error"