ผลต่างระหว่างรุ่นของ "Cranbrook Schools"
แถว 36: | แถว 36: | ||
นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่พี่ว่าดีมากๆ คือ นอกจากโรงเรียนแล้ว ใน Campus เรายังมีอีกหลายสถาบันที่เหมาะแก่การหาความรู้มากๆ นี่พูดจริงๆ | นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่พี่ว่าดีมากๆ คือ นอกจากโรงเรียนแล้ว ใน Campus เรายังมีอีกหลายสถาบันที่เหมาะแก่การหาความรู้มากๆ นี่พูดจริงๆ | ||
− | 1. Cranbrook Academy of Art และ Art Gallery | + | |
+ | === 1. Cranbrook Academy of Art และ Art Gallery === | ||
เป็น Grad School ด้าน Fine Art อันดับสองของอเมริกาครับ ผลิตนักศิลปะชื่อดังของโลกมากมาย (ไว้กล่าวทีหลัง) | เป็น Grad School ด้าน Fine Art อันดับสองของอเมริกาครับ ผลิตนักศิลปะชื่อดังของโลกมากมาย (ไว้กล่าวทีหลัง) | ||
ห้องสมุดของ Academy of Art ใช้บัตรนักเรียน เข้า และ ยืม ได้ครับ | ห้องสมุดของ Academy of Art ใช้บัตรนักเรียน เข้า และ ยืม ได้ครับ | ||
แถว 42: | แถว 43: | ||
พี่ก็ชอบไปเดินดู Gallery บ่อยๆ จะได้รับรู้ถึงความงามของศิลปะ | พี่ก็ชอบไปเดินดู Gallery บ่อยๆ จะได้รับรู้ถึงความงามของศิลปะ | ||
− | 2. Cranbrook Institute of Science | + | === 2. Cranbrook Institute of Science === |
เป็นศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ (ซักด้าน รู้ว่ามีเรื่อง อินเดียนแดง เรื่องอื่นไม่รู้อ่ะ) และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ครับ | เป็นศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ (ซักด้าน รู้ว่ามีเรื่อง อินเดียนแดง เรื่องอื่นไม่รู้อ่ะ) และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ครับ | ||
ดีมากๆ ครับ ก็เหมือนพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ดีๆ ซักที่หนึ่ง มีอะไรให้ลองเล่นมากมาย | ดีมากๆ ครับ ก็เหมือนพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ดีๆ ซักที่หนึ่ง มีอะไรให้ลองเล่นมากมาย |
รุ่นปรับปรุงเมื่อ 17:21, 7 เมษายน 2551
เนื้อหา
Introduction
Cranbrook Kingswood School
หรือเรียก สั้นๆว่า Cranbrook Schools Bloomfield Hills, MI
- แล้วคุณจะไม่ถูกขังอยู่ใน Prep School เล็กๆ
- "โรงเรียนเราไม่ได้อยู่ในป่า แต่มีป่าอยู่ในโรงเรียน" (P'Pin 48)
- โรงเรียนที่มีเวลาพักระหว่างคาบ นานที่สุด ถึง 15 นาที
- โรงเรียนเดียวที่ได้นั่งรถบัสทุกวัน
- โรงเรียนที่ใกล้ Apple Store ที่สุด
อย่างที่บอกครับ มาที่นี่แล้วจะไม่ต้องบ่นว่าถูกขังอยู่ในโรงเรียนเล็กๆ เหมือนเพื่อนๆ เค้า เพราะว่า คุณจะ...อยู่ในโรงเรียนใหญ่ๆ แทนก่อนอื่นต้องบอกว่า โรงเรียนเราอยู่ใน Michigan ครับ ซึ่งต้องนับว่าไกลจากเพื่อนฝูง New England และก็ไกลจากเมืองใหญ่ๆ ทั้งหลายที่ไปเดินเที่ยวเล่นได้ เช่น Chicago, NYC, Boston, หรือ Philly ค่าโดยสารไปหาเพื่อนๆ จะค่อนข้างแพงมาก เพราะต้องบืนไป
Campus
ก่อนจะเจาะลึกในรายละเอียด มาดูภาพคร่าวๆ ของ CK กันก่อน
โรงเรียนเป็นทั้ง Boarding และ Day School ครับ โรงเรียนของเรามีชื่อในเรื่องความ "ใหญ่" ครับ ใหญ่ แปลว่า ใหญ่ ครับ Cranbrook Schools ประกอบไปด้วยโรงเรียนย่อยๆ ดังนี้ Brookside (Elementary School ครับ), Boy Middle School, Girl Middle School, และ Upper Schools (Cranbrook Kingswood School)
สำหรับ Upper School เรามีสอง Campus ครับ เนื่องด้วยในสมัยก่อนนั้น ผู้ก่อตั้งโรงเรียน George Booth ได้สร้างโรงเรียนชายล้วนขึ้นมา ชื่อว่า Cranbrook School ผ่านไปซักพักนึง ภรรยาของท่าน Ellen Booth บอกว่า นี่มันไม่เท่าเทียมกันเลยนะ เธอเลยสร้างโรงเรียนหญิงล้วนขึ้นมาชื่อว่า Kingswood School ครับ แต่ผ่านไปสักระยะหนึ่ง เค้าก็สำนึกว่า พระเจ้าสร้างผู้หญิงและผู้ชายมาเพื่ออยู่ด้วยกัน (หะๆ) เค้าก็เลยรวมโรงเรียนเข้าด้วยกัน ชื่อว่า Cranbrook Kingswood School มันก็เลยมี 2 Campus ครับ
ทั้งสอง Campus ห่างกันเป็นระยะ 5 นาทีรถบัส และประมาณ 15-25 นาทีเดินผ่านป่าครับ (ในฤดู Fall) ในปัจจุบัน Cranbrook ก็จะเป็นฝั่งที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศาสนา ศิลปะ (Performing Art) และภาษาต่างประเทศ และก็จะเป็นหอพักชายครับ ส่วน Kingswood ก็จะเป็นฝั่งที่เรียนวิชาประวัติศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และศิลปะ (Fine Art) และก็จะเป็นหอพักหญิง
อย่างที่บอกไปแล้ว รร เรามีเวลาระหว่างคาบนานที่สุด ถึง 15 นาที เพราะว่าการเดินทางระหว่าง Campus จะมี รถบัส สีเหลือง คันใหญ่ๆ ให้บริการครับ ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที ในการขับรถ
นอกจากนี้แล้ว สิ่งที่พี่ว่าดีมากๆ คือ นอกจากโรงเรียนแล้ว ใน Campus เรายังมีอีกหลายสถาบันที่เหมาะแก่การหาความรู้มากๆ นี่พูดจริงๆ
1. Cranbrook Academy of Art และ Art Gallery
เป็น Grad School ด้าน Fine Art อันดับสองของอเมริกาครับ ผลิตนักศิลปะชื่อดังของโลกมากมาย (ไว้กล่าวทีหลัง) ห้องสมุดของ Academy of Art ใช้บัตรนักเรียน เข้า และ ยืม ได้ครับ Art Gallery ก็ดีมากๆ ครับ ก็จะมี exhibition ด้าน art ดังๆ มาจัดเป็นระยะๆ ปกติก็ต้องจ่ายเงินแพงๆ เข้ากันตามระเบียบ แต่ถ้ามีบัตรนักเรียน ก็เข้าฟรี ครับ พี่ก็ชอบไปเดินดู Gallery บ่อยๆ จะได้รับรู้ถึงความงามของศิลปะ
2. Cranbrook Institute of Science
เป็นศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ (ซักด้าน รู้ว่ามีเรื่อง อินเดียนแดง เรื่องอื่นไม่รู้อ่ะ) และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ครับ ดีมากๆ ครับ ก็เหมือนพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ดีๆ ซักที่หนึ่ง มีอะไรให้ลองเล่นมากมาย จะมีเรื่องอินเดียนแดงเยอะเป็นพิเศษครับ มีหอดูดาว ซึ่งบางวันจะเปิดให้ไปดูดาวได้ วันดีคืนดีก็จะมีนักวิทยาศาสตร์มาบรรยายครับ พี่เคยไปฟังครั้งนึง เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำวิจัยเกี่ยวกับ สัตว์จำพวกแมมมอท คนนี้เค้าเป็นคนเจอตัวลูก ที่อยู่ในน้ำแข็ง และเป็นคนพัฒนาทฤษฎีการศึกษาแมมมอท จาก "วงในงา" ไปเปิดเจองานของเค้าเป็น อันดับประมาณ 20 ผลงานวิทยาศาสตร์สุดยอดในปี 2007 ใน Discovery ด้วย อ้อ บัตรนักเรียน เข้าฟรี ครับ
นอกจากนั้นในอาณาเขตของโรงเรียน สวยงามมากๆ ครับ มี Cranbrook House ซึ่งพี่เข้าใจว่า เคยเป็นบ้านของใครซักคน ซึ่งพื้นที่รอบๆ สวยมากๆ โดยเฉพาะใน Fall มีสวนดอกไม้ รูปปั้นมากมาย น้ำพุ บ่อน้ำ แล้วระหว่าง Kingswood กับ Cranbrook ก็มีทะเลสาบขนาดย่อมๆ อยู่ด้วยครับ ที่เหลือก็เป็น "ป่า" ซึ่งถ้าเป็น Fall ก็จะสวยและโรแมนติกมากๆ ใน winter ที่มีหิมะปกคลุม ก็จะสวยงามไปอีกแบบ ไว้เอารูปมาลงให้ดูภายหลัง
ข้อเสียของความใหญ่ ก็คือมันใหญ่ครับ ถ้าบางทีไปทำอะไรที่อีกฟากหนึ่ง แล้วมันเลยเวลา หรือ วันเสาร์อาทิตย์ อยากไปหาเพื่อนต่างเพศยังเงี้ย (หรือสำหรับผู้หญิง สอบ SAT) ก็ต้องเดินกลับ แต่บางทีได้เดินบ้างก็ดีนะ